แก้วไวน์ มากกว่าภาชนะ คือศิลปะที่เติมเต็มรสชาติและประสบการณ์ในทุกๆจิบ

“แก้วไวน์ที่คุณถืออยู่ในมือนั้น มีผลต่อรสชาติไวน์จริงหรือ”
ในโลกของเรานั้น ทุกสิ่งล้วนถูกสร้างขึ้นมาเพื่อแก้ปัญหา ปัญหาของอะไรบางสิ่งบางอย่างเราจึง คิด วิธีการที่จะแก้ปัญหาเพื่อมุ่งไปข้างหน้าสู่อนาคตโดย สร้าง เส้นทางในการก้าวไปข้างหน้า และต่อให้คิดและสร้างแล้ว ก็อาจไม่ประสบความสำเร็จหากพวกเรายังไม่ได้ “ออกแบบ” เส้นทางดังกล่าวนั้นอย่างถูกต้อง ซึ่งการออกแบบในที่นี้ไม่ใช่แค่การออกแบบในเชิงรูปธรรม หรือออกแบบผลิตภัณฑ์เท่านั้น แต่หมายถึงการออกแบบในเชิงโครงสร้าง ออกแบบวิธีคิด และวิธีการทำงาน ด้วยเหตุนี้ต่อให้เจอปัญหาก็สามารถใช้กระบวนการคิดและออกแบบวิธีแก้ปัญหาได้อย่างสร้างสรรค์

——————————————

เพราะการเฉลิมฉลองอยู่คู่กับมนุษย์มานานแสนนาน เครื่องดื่มอร่อย ๆ ก็เช่นกัน ถ้าอยากแฮปปี้กันเต็มที่จะขาดของอร่อยพวกนี้ไปได้อย่างไร ยิ่งสำหรับในช่วงสิ้นปีที่เราต้องฉลองให้กับเทศกาล
ไวน์เป็นหนึ่งในเครื่องดื่มที่มีอายุมาอย่างยาวนาน ในทุกๆ ครั้งที่เรายกแก้วไวน์ขึ้นมาเพื่อจิบลิ้มรสชาติ ไม่เพียงแต่ไวน์ที่ถูกสร้างสรรค์อย่างพิถีพิถันจะมอบประสบการณ์อันน่าจดจำ แต่แก้วไวน์ที่ถืออยู่ในมือเราก็เป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยเติมเต็มประสบการณ์นี้เช่นกัน รูปทรงของแก้ว ความโปร่งใสของเนื้อแก้ว หรือแม้แต่วิธีที่มันสะท้อนแสงในยามค่ำคืน ล้วนส่งผลต่อการรับรู้กลิ่น รส และสัมผัสของไวน์ที่อยู่ภายใน
Photo by Chris Montgomery on Unsplash

บทบาทของแก้วไวน์ไม่เพียงเป็นภาชนะ แต่เป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยขับเน้นเอกลักษณ์ของไวน์ในแต่ละชนิด การออกแบบแก้วไวน์จึงเป็นทั้งศาสตร์และศิลป์ที่เกี่ยวข้องกับความรู้ในหลากหลายมิติ ไม่ว่าจะเป็นจิตวิทยาการรับรู้ ความเข้าใจในโครงสร้างไวน์ หรือแม้แต่การประยุกต์เทคโนโลยีเข้ากับวัสดุสมัยใหม่

ในบทความนี้ เราจะออกเดินทางไปสำรวจว่า “แก้วไวน์” ในฐานะงานออกแบบชิ้นหนึ่ง ได้ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อตอบสนองความต้องการของมนุษย์อย่างไร โดยใช้กรอบคิดแบบ Design Thinking มาเป็นแนวทางในการวิเคราะห์ ตั้งแต่การเข้าใจความต้องการของผู้ใช้งาน การนิยามปัญหา การระดมไอเดียใหม่ๆ ไปจนถึงการสร้างต้นแบบและการทดสอบ กระบวนการเหล่านี้ไม่เพียงสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่สวยงามและใช้งานได้จริง แต่ยังสะท้อนให้เห็นถึงความซับซ้อนและความหลากหลายของความคิดสร้างสรรค์ในงานออกแบบร่วมสมัย

พร้อมหรือยังที่จะยกแก้วไวน์ขึ้นจิบ แล้วเริ่มต้นการเดินทางผ่านเลนส์ของงานออกแบบที่เปลี่ยนแปลงชีวิตผู้คน

Photo by Unsplash

การเดินทางจากอดีตสู่ปัจจุบัน

แก้วไวน์เป็นเรื่องราวของการเดินทางที่เต็มไปด้วยเสน่ห์และความหมาย มันเริ่มต้นจากความเรียบง่ายในยุคโบราณ เมื่อมนุษย์เริ่มรู้จักการหมักองุ่นให้กลายเป็นเครื่องดื่มอันวิเศษ พวกเขาใช้
ภาชนะธรรมดาอย่างถ้วยดินเผาและโลหะเพื่อรินเครื่องดื่มแห่งเทพเจ้านี้ เสียงกระทบของภาชนะในการดื่มอวยพรกันนั้นคงจะแตกต่างจากเสียงกังวานใสของแก้วคริสตัลที่เราคุ้นเคยในปัจจุบัน

ภาพวาดการดื่มไวน์ในยุคศตวรรษที่ 19 ซึ่งวาดขึ้นในปี 1866 Photo by Ny Illustrerad Tidning / Shutterstock

ยามที่แสงส่องผ่านแก้วไวน์สมัยใหม่ มันสะท้อนให้เห็นถึงการเดินทางอันยาวนานของการพัฒนาและการค้นพบ จากยุคฟื้นฟูศิลปวิทยาการที่ช่างฝีมือเริ่มค้นพบความงามของแก้วคริสตัลที่ใสบาง พวกเขาขัดเกลาและเป่าแก้วด้วยความประณีต สร้างสรรค์ภาชนะที่ไม่เพียงบรรจุไวน์ แต่ยังช่วยขับเน้นความงามของสีและความใสของเครื่องดื่มในแก้วนั้น

ภาพตัวอย่างแก้วไวน์ในปลายยุค 1700 โดยการผลิตของจอร์จ ราเวนสคอร์ฟต์ นักธุรกิจผู้นำเรื่องการผลิตแก้วในยุคนั้น Photo by Alchetron

ในแต่ละยุคสมัย แก้วไวน์ได้หลอมรวมเอาศาสตร์และศิลป์เข้าไว้ด้วยกัน วิทยาศาสตร์สมัยใหม่ช่วยให้เราเข้าใจว่าทำไมรูปทรงบางแบบจึงช่วยเผยกลิ่นและรสของไวน์ได้ดีกว่า การจำลองการไหลของของเหลวด้วยคอมพิวเตอร์ช่วยให้เราออกแบบแก้วที่ทำหน้าที่ได้อย่างสมบูรณ์แบบมากขึ้น แต่ในขณะเดียวกัน ความงามของการออกแบบก็ยังคงความสำคัญไม่แพ้กัน

แก้วไวน์ในปัจจุบันเป็นมากกว่าภาชนะใส่เครื่องดื่ม มันเป็นตัวแทนของวัฒนธรรมการดื่มที่สั่งสมมาหลายศตวรรษ เมื่อเราชนแก้วกันในงานเฉลิมฉลอง เสียงกังวานนั้นสะท้อนถึงช่วงเวลาแห่งความสุขและมิตรภาพ รูปทรงที่สูงเพรียวของแก้วแชมเปญช่วยรักษาฟองก๊าซให้คงอยู่นานขึ้น ขณะที่แก้วไวน์แดงที่มีช่องว่างกว้างช่วยให้ไวน์ได้สัมผัสกับอากาศ ปลดปล่อยกลิ่นและรสชาติที่ซ่อนอยู่

Photo by William Sonoma

ในโลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว แก้วไวน์ก็ยังคงพัฒนาต่อไป การออกแบบสมัยใหม่ให้ความสำคัญกับความยั่งยืน ทั้งในแง่ของวัสดุและกระบวนการผลิต แต่ยังคงรักษาไว้ซึ่งความประณีตและการใส่ใจในรายละเอียด เพราะทุกครั้งที่เราถือแก้วไวน์ขึ้นมา เราไม่ได้ถือเพียงภาชนะใส่เครื่องดื่ม แต่เรากำลังถือประวัติศาสตร์อันยาวนานของการพัฒนา วัฒนธรรม และศิลปะที่หลอมรวมกันอยู่ในมือของเรา

แก้วไวน์จึงเป็นเรื่องราวของการเดินทางที่ไม่มีวันสิ้นสุด จากอดีตสู่ปัจจุบัน และก้าวต่อไปสู่อนาคต มันเป็นสิ่งที่เตือนใจเราว่าบางครั้งความงามก็แฝงอยู่ในความเรียบง่าย และนวัตกรรมที่ดีที่สุดคือการผสมผสานระหว่างประโยชน์ใช้สอยและความงามเข้าด้วยกันอย่างลงตัว

ในโลกของการดื่มไวน์ที่เต็มไปด้วยความประณีตและศิลปะ เราได้พบกับเรื่องราวที่น่าสนใจของผู้คนสามกลุ่มที่มีความสัมพันธ์กับแก้วไวน์แตกต่างกันไป
นักดื่มมือใหม่ที่ก้าวเข้าสู่โลกใบนี้ด้วยความกังวลและความตื่นเต้น เมื่อนักดื่มมือใหม่จับแก้วไวน์ขึ้นมา พวกเขามักจะรู้สึกประหม่า กังวลว่าจะถือไม่ถูกวิธี หรือเลือกแก้วผิดประเภท ความกังวลเหล่านี้บางครั้งทำให้พวกเขาไม่สามารถเพลิดเพลินกับช่วงเวลาแห่งการดื่มได้อย่างเต็มที่
ผู้เชี่ยวชาญที่เข้าใจถึงความลึกซึ้งของทุกรายละเอียดกลับมองเห็นความมหัศจรรย์ของแก้ว ตั้งแต่ความหนาของขอบแก้วที่ส่งผลต่อสัมผัสของริมฝีปาก ไปจนถึงมุมของปากแก้วที่ช่วยนำพากลิ่นหอมของไวน์สู่จมูก
และนักสะสมที่มองด้วยสายตาที่แตกต่างออกไป พวกเขาเห็นคุณค่าของความเป็นศิลปะ ประวัติศาสตร์ และเรื่องราวที่ซ่อนอยู่ในทุกใบแก้ว
Photo by Khuc Le Thanh Danh on Unsplash

บรรยากาศและสถานที่ยังส่งผลต่อประสบการณ์การดื่มไวน์อย่างน่าสนใจ ที่บ้านอันแสนสบาย นักดื่มมือใหม่อาจกังวลเรื่องการดูแลรักษาแก้วให้ปลอดภัย ในขณะที่ผู้เชี่ยวชาญอาจจัดมุมไวน์พิเศษพร้อมตู้ควบคุมอุณหภูมิ และนักสะสมอาจภูมิใจนำเสนอคอลเลกชันแก้วในตู้โชว์สวยงาม เมื่อออกไปดื่มที่ร้านอาหาร บรรยากาศที่เป็นทางการอาจทำให้นักดื่มมือใหม่รู้สึกกดดัน ในขณะที่ผู้เชี่ยวชาญจะสังเกตคุณภาพของแก้วที่ร้านเลือกใช้ และนักสะสมอาจสนใจประวัติความเป็นมาของแก้วในร้านดังที่มีชื่อเสียง

ในงานปาร์ตี้ที่เต็มไปด้วยความสนุกสนาน แก้วไวน์กลายเป็นส่วนหนึ่งของการสร้างบรรยากาศ นักดื่มมือใหม่พยายามจดจำมารยาทการดื่มให้ถูกต้อง ผู้เชี่ยวชาญอาจใส่ใจกับการจับคู่แก้วให้เหมาะกับไวน์แต่ละประเภท และนักสะสมอาจใช้โอกาสนี้แบ่งปันเรื่องราวน่าสนใจของแก้วในคอลเลกชันของตน

รูปทรงและวัสดุของแก้วไวน์ก็มีเสน่ห์ไม่แพ้กัน แก้วทรงสูงเพรียวบางสื่อถึงความหรูหรา ในขณะที่แก้วทรงป้อมให้ความรู้สึกอบอุ่นเป็นกันเอง คริสตัลใสบริสุทธิ์สะท้อนแสงอย่างงดงาม และเสียงกังวานเมื่อชนแก้วเพิ่มความรื่นเริงให้กับทุกการเฉลิมฉลอง

การออกแบบแก้วไวน์ในปัจจุบันไม่เพียงแต่คำนึงถึงความสวยงามและประโยชน์ใช้สอย แต่ยังต้องรับมือกับความท้าทายใหม่ๆ เช่น การใช้วัสดุรีไซเคิลที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม การรักษาอุณหภูมิให้เหมาะสม และการผสมผสานเทคโนโลยีเข้ากับความงามแบบดั้งเดิม นักออกแบบจึงต้องสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ๆ เช่น แก้วที่มีช่องอากาศพิเศษเพื่อเพิ่มประสบการณ์การดื่ม หรือแก้วที่สามารถปรับรูปทรงได้ตามความต้องการ

ในท้ายที่สุดแล้วแก้วไวน์ไม่ได้เป็นเพียงภาชนะใส่เครื่องดื่ม แต่เป็นตัวกลางที่เชื่อมโยงผู้คนเข้าด้วยกันผ่านประสบการณ์การดื่ม ดังนั้นการออกแบบแก้วไวน์ในยุคปัจจุบันและอนาคต ต้องไม่เพียงมุ่งเน้นไปที่ความงดงามหรือฟังก์ชันการใช้งาน แต่ต้องคำนึงถึงความยั่งยืนของวัสดุ กระบวนการผลิต และความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม การผสมผสานองค์ประกอบเหล่านี้จะช่วยสร้างผลิตภัณฑ์ที่ไม่เพียงตอบโจทย์ผู้ใช้ในปัจจุบัน แต่ยังสร้างความประทับใจและความผูกพันที่ยั่งยืนในอนาคต

ทุกคนล้วนมีส่วนร่วมในการสร้างวัฒนธรรมการดื่มไวน์ที่งดงามและมีเสน่ห์ สะท้อนวิวัฒนาการของวัฒนธรรม การบริโภค และความคิดสร้างสรรค์ที่ไม่มีวันหยุดนิ่ง พร้อมหรือยังที่จะยกแก้วขึ้น เพื่อดื่มด่ำกับประวัติศาสตร์และนวัตกรรมที่หลอมรวมกันอย่างลงตัวในแก้วไวน์หนึ่งใบ

แหล่งอ้างอิง

1. Riedel Official Website

2. Wine Folly

3. The Science of Wine: From Vine to Glass (Jamie Goode) ISBN: 978-0520276895

4. Zalto Denk’Art

5. บทความทางวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับประสาทสัมผัสและไวน์

  • Parr, W. V., Heatherbell, D., & White, K. G. (2002). Demystifying wine expertise: Olfactory threshold, perceptual skill and semantic memory in expert and novice wine judges. Journal of Wine Research, 13(3), 215-234.

6. Decanter Magazine