“กระทงในวันนี้ยังคงเป็นสัญลักษณ์ของความศรัทธาและความเคารพอย่างแท้จริงหรือกลายเป็นเพียงสิ่งของที่ใช้แค่เพื่อเข้าร่วมเทศกาลเท่านั้น”
ในโลกของเรานั้น ทุกสิ่งล้วนถูกสร้างขึ้นมาเพื่อแก้ปัญหา ปัญหาของอะไรบางสิ่งบางอย่างเราจึง คิด วิธีการที่จะแก้ปัญหาเพื่อมุ่งไปข้างหน้าสู่อนาคตโดย สร้าง เส้นทางในการก้าวไปข้างหน้า และต่อให้คิดและสร้างแล้ว ก็อาจไม่ประสบความสำเร็จหากพวกเรายังไม่ได้ “ออกแบบ” เส้นทางดังกล่าวนั้นอย่างถูกต้อง ซึ่งการออกแบบในที่นี้ไม่ใช่แค่การออกแบบในเชิงรูปธรรม หรือออกแบบผลิตภัณฑ์เท่านั้น แต่หมายถึงการออกแบบในเชิงโครงสร้าง ออกแบบวิธีคิด และวิธีการทำงาน ด้วยเหตุนี้ต่อให้เจอปัญหาก็สามารถใช้กระบวนการคิดและออกแบบวิธีแก้ปัญหาได้อย่างสร้างสรรค์
——————————————
ความหมายและรากฐานของประเพณีลอยกระทง
ประเพณีลอยกระทง
ความจริงในกลุ่มนักประวัติศาสตร์ทางเลือกต่างนำเสนอมานานแล้วว่า ลอยกระทงไม่ได้กำเนิดขึ้นที่สุโขทัย และไม่ได้มีเฉพาะในไทย หากแต่เป็นประเพณีที่แชร์ร่วมกันหลายประเทศ หลักฐานเก่าสุดอยู่ที่เขมร แม้ว่าไม่มีใครสามารถชี้ชัดลงได้ว่าลอยกระทงกำเนิดขึ้นเมื่อใดและมาจากไหน แต่มีความเป็นไปได้ที่ลอยกระทงเป็นพิธีขอขมาผีน้ำมาก่อน ดังจะเห็นได้จากบางท้องที่ทุกวันนี้ยังใช้กระทงรูปเรือใส่อาหารและเงินลงไปเพื่อลอยไปให้ผี ต่อเมื่อรับศาสนาจากอินเดียเมื่อสัก 2,000 ปีที่แล้ว จึงแปลงผีน้ำให้เป็นพระแม่คงคา เพื่อทำให้ประเพณีศักดิ์สิทธิ์ขึ้น แต่ร่องรอยบูชาผีก็ยังเห็นได้จากการใส่เงินลงไปในกระทง
Photo by The Standard ภาพสลักเล่าเรื่องลอยกระทงที่ปราสาทบายน อายุราว พ.ศ. 1750 แถวล่างเป็นนางในที่กำลังถือกระทง
สุจิตต์ วงษ์เทศ เชื่อว่าลอยกระทงเป็นประเพณีที่สืบมาตั้งแต่ก่อนประวัติศาสตร์ และไม่ใช่ของสุโขทัย เพราะไม่ปรากฏในจารึกหลักใด มีเพียงคำว่า ‘เผาเทียนเล่นไฟ’ อีกทั้งสุโขทัยเป็นเมืองแล้งน้ำ จึงต้องขุดตระพังเพื่อกักเก็บน้ำ ไม่ได้ใช้ลอยกระทงแบบที่เห็นในสื่อทุกวันนี้ แต่ลอยกระทงนั้นเป็นของเมืองในลุ่มน้ำเจ้าพระยา คือกรุงศรีอยุธยา ที่มีวัฒนธรรมร่วมกับเขมรอย่างสูง จึงคงจะสืบทอดประเพณีลอยกระทงมาจากเขมร เมืองพระนคร มีหลักฐานให้เห็นอยู่ที่ภาพสลักที่ปราสาทบายน (อายุราว พ.ศ.1750 เก่ากว่าสุโขทัย) เป็นรูปนางในถือกระทงเรียงกันเป็นแถว เพื่อลอยกระทงลงในแม่น้ำ เหนือภาพของนางในมีภาพของกษัตริย์นั่งในเรือ แวดล้อมด้วยนางสนมที่มีกระทงในมือ แสดงว่าลอยกระทงเป็นประเพณีที่ราชสำนักให้ความสำคัญ
Photo by Sina.com.cn ภาพวาดการลอยกระทงในจีนสมัยโบราณ กระทงทำเป็นรูปดอกบัวแบบไทย
นักวิชาการบางท่านเชื่อว่า ลอยกระทงอาจมาจากจีน ดร.ศิริวรรณ วรชัยยุทธ สาขาวิชาภาษาจีน มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้ให้ข้อมูลว่า วัฒนธรรมจีนมีลอยกระทง แต่เรียกว่า ‘ลอยโคม’ (ฟั่งเหอเติง) รูปร่างของโคมก็คล้ายกับกระทงของไทย แต่ไม่ได้ลอยเพื่อขอขมาพระแม่คงคา หากแต่ลอยเพื่ออุทิศส่วนกุศลให้กับบรรพบุรุษ และยังส่องทางให้ผีขึ้นมาสู่โลกมนุษย์ประเพณีนี้ปฏิบัติกันมาตั้งแต่ราชวงศ์ถัง และแพร่หลายทั่วจีนในสมัยราชวงศ์หยวน โคมในตลาดของจีนสมัยราชวงศ์หมิง-ชิง ทำเป็นรูปดอกบัว มีทั้งลอยในแม่น้ำและทะเล นอกจากเป็นงานอุทิศส่วนกุศลให้คนตายแล้ว ยังเป็นงานสนุกสนานรื่นเริงด้วย เป็นไปได้เหมือนกันว่า ลอยกระทงอาจมาจากลอยโคม พระยาอนุมานราชธนให้ความเห็นว่า การลอยกระทงนี้แต่เดิมเรียกว่า ‘ชักโคมลอยโคม’ ซึ่งปรากฏอยู่ในนางนพมาศ รูปร่างโคมจะเป็นอย่างไรนั้นไม่ทราบ แต่นางนพมาศมาประดิษฐ์ให้เป็นรูปดอกบัว (พระยาอนุมานราชธน 2504:6) แนวคิดการทำกระทงรูปดอกบัวของนางนพมาศ ซึ่งเป็นวรรณกรรมสมัยรัชกาลที่ 3 นี้ คงได้มาจากจีน
มีรากฐานมาจากความเชื่อทางศาสนาและวัฒนธรรมไทย ที่เชื่อมโยงกับธรรมชาติและน้ำอย่างลึกซึ้ง โดยเฉพาะในฐานะการขอขมาและบูชาพระแม่คงคา ผู้เป็นเทวีแห่งสายน้ำ ทั้งนี้ความเป็นมาเชิงลึกของประ เพณีลอยกระทงสามารถแบ่งได้เป็นหลายส่วนด้วยกัน
เทศกาลลอยกระทงเป็นหนึ่งในประเพณี ที่ทรงคุณค่าของไทย เต็มไปด้วยความเชื่อที่ลึกซึ้งและบรรยากาศที่สวย งามชวนหลงใหล ทุกๆปีในคืนวันเพ็ญเดือนสิบสอง ท้องฟ้าสว่างไสวด้วยแสงจันทร์ที่สะท้อนลงผืนน้ำ เต็มไปด้วยกระทงหลากสีสัน และแสงเทียนที่กระจายตามสายน้ำ เป็นสัญลักษณ์แห่งการขอบคุณและขอขมาต่อพระแม่คงคา เทพธิดาแห่งสายน้ำผู้คอยให้คุณประโยชน์แก่มวลมนุษย์
เชื่อมโยงประวัติศาสตร์และตำนาน
ตามตำนานและความเชื่อในศาสนาพุทธเกี่ยวกับการลอยกระทง มีเรื่องราวที่เชื่อมโยงประเพณีลอยกระทงกับหลักคำสอนและพุทธประวัติในแง่มุมที่หลากหลายไม่ได้เป็นเพียงการขอขมาต่อแม่น้ำและพระแม่คงคาเท่านั้น แต่ยังมีตำนานที่เกี่ยวกับการบูชาพระพุทธเจ้าและหลักการสำคัญทางศาสนาพุทธด้วย โดยเชื่อกันว่าการลอยกระทงเป็นการบูชารอยพระพุทธบาทที่พระพุทธเจ้าได้ทรงประดิษฐานไว้บนฝั่งแม่น้ำนัมมทานทีในประเทศอินเดีย เมื่อครั้งพระพุทธเจ้าเสด็จมาแสดงธรรมแก่เหล่าพรหมและเทวดา รอยพระพุทธบาทนี้ถือเป็นสัญลักษณ์แห่งการเคารพบูชาและแสดงถึงความเชื่อที่ว่าผู้ที่ได้บูชาจะได้รับบุญกุศลอัน ยิ่งใหญ่ และเป็นการบูชาพระจุฬามณีเจดีย์บนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ ซึ่งเป็นที่บรรจุพระเกศาของพระพุทธเจ้า การลอยกระทงจึงเป็นการเชื่อมโยงกับการสักการะพระเจดีย์เพื่อแสดงถึงความศรัทธาในพระพุทธคุณ
ตำนานนางนพมาศและการถวายบูชาต่อพระพุทธเจ้านางนพมาศเป็นนางสนมในสมัยพระร่วงแห่งอาณาจักรสุโขทัย ผู้มีสติปัญญาและได้คิดประดิษฐ์กระทงลอยเพื่อถวายบูชาแด่พระพุทธเจ้า ด้วยการใช้ดอกบัวและใบตองที่มีลักษณะงดงามและศักดิ์สิทธิ์ ทำให้การลอยกระทงมีความหมายในเชิงการบูชาพระพุทธเจ้าและการแสดงความศรัทธาด้วยความเคารพและตั้งใจ การทำกระทงที่ประณีตและงดงามจึงเป็นการแสดงออกถึงความเลื่อมใสและความศรัทธาในพระพุทธศาสนา
ทีปาวลี เป็นพิธีบูชาเทพเจ้า เป็นเทศกาลแห่งแสงสว่าง และปีใหม่ของอินเดีย เพราะเป็นการเปลี่ยนฤดูจากฝนไปหนาว จึงจัดในช่วงราวเดือนตุลาคม-พฤศจิกายน
อาจารย์กิตติพงศ์ บุญเกิด จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย อธิบายว่า ในเทศกาลนี้จะมีการจุดประทีปใส่ถ้วยเล็กๆ วางตามบ้าน ท่าน้ำ และบางที่ลอยในแม่น้ำคงคา แต่ไม่ทำเป็นรูปกระทงแบบไทยหรือจีน มีเพียงเมืองพาราณสีที่เดียวที่พบว่ามีการลอยประทีปลงแม่น้ำ ประทีปนี้ทำจากใบไม้แห้งเป็นรูปทรงคล้ายชามเล็กๆ ใส่ดอกไม้ จากนั้นจึงเอาไปลอยในแม่น้ำคงคา หรือตั้งตามท่าน้ำเพื่อบูชาเทพเจ้า เหตุที่คนอินเดียทำพิธีทีปาวลี เพราะมีตำนานเล่ากันว่า เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองการนิวัตินครอโยธยาของพระรามและพระนางสีดา ชาวเมืองต่างปีติยินดีจึงต่างพากันจุดประทีปประดับประดาทั่วเมือง
แต่มีอีกความเชื่อว่า เป็นเทศกาลบูชาพระแม่ลักษมี ซึ่งเป็นเทพีแห่งความร่ำรวยและโชคลาภ ด้วยเหตุนี้ จึงทำให้พ่อค้าจุดประทีปบูชากันมาก เพื่อหวังให้ชีวิตร่ำรวยสว่างไสว
ดังนั้น ทีปาวดีจึงไม่เกี่ยวกับการบูชาพระแม่คงคา หรือพุทธประวัติแต่อย่างใด
สรุป ดังนั้นพิธีกรรมการบูชาแม่น้ำตามความเชื่อของไทยที่เป็นความเชื่อผสานวัฒนธรรมต่าง ๆ โดยนอกจากจะเกี่ยวข้องกับการบูชาพระพุทธเจ้าและขอขมาต่อแม่น้ำแล้ว ยังเป็นการเคารพธรรมชาติและเชื่อว่าการลอยกระทงจะช่วยขจัดปัดเป่าภัยพิบัติและเคราะห์ร้ายและความเชื่อเกี่ยวกับการขอขมาต่อแม่น้ำเชื่อมโยงกับความเชื่อในเรื่องบุญและกรรม กลายเป็นประเพณีรูปแบบใหม่ที่มีความสัมพันธ์กับต้นกำเนิดที่แท้จริงตามหลักฐาน เราจึงจำเป็นต้องรู้ที่มาที่ไปของจุดกำเนิดเพื่อเข้าใจวัตถุประสงค์ที่แท้จริงของพิธีกรรมนั้นๆ
——————————————
ศิลปะและความงดงามในกระทง
ในทางศิลปะ
มีความเชื่อมโยงอย่างลึกซึ้งทั้งในเชิงความงามและความหมายเชิงวัฒนธรรม เนื่องจากกระทงเป็นสิ่งที่สื่อถึงจิตวิญญาณ ศิลปะ และความเชื่อที่ถ่ายทอดผ่านวัสดุ รูปทรง และวิธีการตกแต่งอย่างวิจิตรงดงาม คือการเชื่อมโยงที่สำคัญระหว่างศิลปะและกระทงโดยอาศัยความคิดสร้างสรรค์ในการออกแบบและตกแต่งกระทงเป็นงานศิลปะที่ต้องใช้ทักษะและความคิดสร้างสรรค์ในการออกแบบโครงสร้าง การจัดวางดอกไม้ ใบไม้ และของตกแต่งต่าง ๆ ให้สวยงามและสมดุล ทั้งนี้ยังแฝงความหมายสื่อถึงการอุทิศความงามและความบริสุทธิ์ให้กับพระแม่คงคา มีการใช้สัญลักษณ์และความหมายในงานศิลปะ เช่น ดอกดาวเรือง หมายถึงความเจริญรุ่งเรือง ดอกบัวหมายถึงความบริสุทธิ์และศรัทธา รวมถึงใบตองที่เป็นตัวแทนของความเป็นธรรมชาติและการเชื่อมโยงกับโลกวิญญาณ อาศัยความวิจิตรบรรจงในการประดิษฐ์เป็นงานฝีมือที่ต้องใช้ความละเอียดอ่อน สะท้อนถึงความสามารถทางศิลปะของช่างฝีมือที่พยายามสร้างงานที่แสดงถึงความงามแห่งศรัทธาผสานศิลปะเข้ากับพิธีกรรม ยังเป็นการสืบสานภูมิปัญญาทางศิลปะและวัฒนธรรมท้องถิ่น ในแต่ละพื้นที่ของไทยมักมีการประยุกต์ใช้ศิลปะและวัสดุในท้องถิ่น เช่น การทำกระทงจากดอกกุหลาบพันปีในภาคเหนือ หรือกระทงจากต้นกกในภาคอีสาน วัสดุที่แตกต่างเหล่านี้สะท้อนถึงความหลากหลายทางศิลปะและการรักษาภูมิปัญญาท้องถิ่นที่ผสมผสานกับธรรมชาติ ในยุคปัจจุบัน การสร้างกระทงที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมได้กลายเป็นศิลปะที่ผสมผสานระหว่างความงามและการอนุรักษ์ ไม่เพียงให้ความงาม แต่ยังแสดงถึงความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมและสังคมด้วย
Photo by เรือนกล้วยไม้งานไทยวิจิตร
ด้านความเชื่อและพิธีกรรม
กระทงเป็นองค์ประกอบที่สำคัญของวัฒนธรรมมนุษย์ที่สะท้อนถึงความสัมพันธ์ระหว่างผู้คนกับธรรมชาติและความเชื่อในสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ความเชื่อและพิธีกรรมจึงมีความเชื่อมโยงในหลากหลายมิติที่แสดงถึงการแสดงออกทางสังคม ศิลปะ และจิตวิญญาณ ความเชื่อและพิธีกรรมมักจะเกี่ยวข้องกับการนับถือและบูชาเทพเจ้า วิญญาณ หรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ต่าง ๆ พิธีกรรมทางศาสนาเหล่านี้เป็นการแสดงถึงความเคารพและความศรัทธา และสะท้อนถึงความเชื่อว่ามนุษย์สามารถสื่อสารกับพลังเหนือธรรมชาติได้เพื่อขอความเมตตา ปกป้อง และความโชคดี และยังมีบทบาทในการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างผู้คนในสังคมผ่านการรวมกลุ่มเพื่อทำกิจกรรมร่วมกัน การทำกระทงและการลอยกระทงร่วมกันเป็นการเสริมสร้างความเป็นชุมชนและความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ซึ่งเป็นการใช้ความเชื่อเพื่อเสริมสร้างความสามัคคีในสังคม การจัดพิธีลอยกระทงเป็นตัวอย่างของการรักษาขนบธรรมเนียมประเพณีที่สะท้อนถึงรากเหง้าของชุมชนและการสืบทอดคุณค่าเดิมจากบรรพบุรุษส่งเสริมให้คนรุ่นใหม่เรียนรู้และรักษาเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรม ความเชื่อและพิธีกรรมยังมีบทบาทสำคัญในการเยียวยาจิตใจและสร้างความรู้สึกสงบและความหวัง การที่ผู้คนได้เข้าร่วมพิธีกรรมเหล่านี้สามารถช่วยให้พวกเขารู้สึกผ่อนคลายและมีพลังใจที่จะเริ่มต้นใหม่ และยังมีบทบาทในเชิงเศรษฐกิจ เช่น การจัดเทศกาลลอยกระทงที่เป็นแหล่งดึงดูดนักท่องเที่ยวและกระตุ้นเศรษฐกิจในท้องถิ่น ร้านค้าและผู้ประกอบการสามารถขายสินค้าหรือบริการที่เกี่ยวข้องกับพิธีกรรม ซึ่งส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจของชุมชน
ไม่ว่าจะเป็นลอยกระทง ลอยประทีป หรือลอยโคม จะพบว่าประเพณีเหล่านี้ล้วนสัมพันธ์กับโลกหลังความตาย ในจีนเชื่อว่า แม่น้ำเป็นทางเชื่อมหรือแดนต่อระหว่างยมโลกกับมนุษยโลก การลอยโคมก็เพื่อส่องทางให้ผีข้ามแม่น้ำไน่เหอ
มีตำนานหนึ่งน่าสนใจเล่าว่า พระมารดาของพระโมคคัลลานะได้ทนทุกข์อยู่ในนรก ด้วยความอยากช่วยพระมารดา พระโมคคัลลาจึงได้ถวายเครื่องไทยทานให้ ส่งผลให้พระมารดาพ้นทุกข์ ต่อมาในยุคราชวงศ์เหนือใต้ได้ผนวกความเชื่อนี้เข้ากับงานลอยโคม
ในส่วนของตำนานรอยพระพุทธบาทนั้น พระยาอนุมานราชธนได้อธิบายว่า ที่นางนพมาศลอยโคมเพื่ออุทิศสักการะรอยพระพุทธบาทนัมมทานทีในอินเดีย ซึ่งพญานาคอัญเชิญให้พระพุทธเจ้าทรงเหยียบไว้นั้น มีการบันทึกไว้ว่า เมื่อได้สอบถามพบว่า ‘ผู้ชำนาญบาลี ก็ว่าเรื่องนี้ไม่เคยพบในที่ใดในพระคัมภีร์ เห็นจะเป็นเรื่องปรัมปราแต่งขึ้นทีหลัง เพื่ออธิบายถึงต้นเหตุลอยกระทง แต่เรื่องเงินปลีกใส่ในกระทงไม่มีกล่าวเลย และก็ไม่เห็นเหตุว่าถ้าเป็นเรื่องบูชาพระพุทธบาท ที่ใส่เงินปลีกไปด้วยเพื่อประโยชน์อันใด’ (พระยาอนุมานราชธน 6)
สรุปสั้นๆ คือ ลอยกระทงเพื่อบูชาพระพุทธบาทไม่มีในอินเดีย เป็นตำนานท้องถิ่น แต่เอาเป็นว่า ตำนานนี้ก็บอกเราว่า กระทงนั้นเชื่อมโยงกับนาค ซึ่งคนโบราณถือว่า นาคหรืองูเป็นสะพานเชื่อมต่อกับโลกหลังความตาย
——————————————
แนวทางการลอยกระทงที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
กระทงกับผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
มีความเชื่อมโยงกันอย่างชัดเจนในหลายด้าน ทั้งในแง่ของวัสดุที่ใช้ทำกระทงและวิธีการลอยกระทงที่อาจส่งผลกระทบต่อธรรมชาติ วัสดุที่ใช้ทำกระทงมีผลต่อสิ่งแวดล้อมอย่างมาก ในอดีต กระทงมักทำจากใบตอง ใบไม้ หรือวัสดุธรรมชาติอื่น ๆ ที่สามารถย่อยสลายได้เอง แต่ในปัจจุบัน กระทงบางประเภททำจากโฟมหรือพลาสติกซึ่งไม่สามารถย่อยสลายได้ตามธรรมชาติ และต้องใช้เวลานานกว่าจะย่อยสลายได้เต็มที่ การใช้วัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมจึงเป็นแนวทางที่ช่วยลดผลกระทบต่อธรรมชาติช่วยลดขยะในน้ำและลดมลพิษทางสิ่งแวดล้อม กระทงที่ทำจากโฟมหรือวัสดุที่ไม่ย่อยสลายทำให้เกิดขยะในแม่น้ำและแหล่งน้ำ ซึ่งส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมทางน้ำและสัตว์น้ำ ทำให้แหล่งน้ำเสียและเกิดสารพิษในระบบนิเวศ สัตว์น้ำบางชนิดอาจกินเศษกระทงหรือพลาสติกเข้าไปโดยไม่ได้ตั้งใจ ซึ่งเป็นอันตรายต่อสุขภาพของสัตว์เหล่านี้ซึ่งเชื่อมโยงกับการเลือกใช้วัสดุที่ปลอดภัยและไม่เป็นอันตรายต่อสิ่งมีชีวิตในแม่น้ำ เราสามารถปลูกจิตสำนึกในการรักษาสิ่งแวดล้อมได้โดยการใช้การลอยกระทงเป็นสื่อการเรียนรู้ในการรักษาสิ่งแวดล้อม เช่น การส่งเสริมให้เด็กและเยาวชนทำกระทงจากวัสดุธรรมชาติหรือวัสดุที่สามารถย่อยสลายได้ นอกจากจะเป็นการปฏิบัติตามประเพณีแล้ว ยังเป็นการปลูกฝังจิตสำนึกให้รู้จักการรักษาแหล่งน้ำ เพื่อให้ตอบวัตถุประสงค์หลักในการลอยกระทงนั่นคือ การขอขมาต่อแม่น้ำและการเคารพต่อธรรมชาตินั่นเอง
Photo by ThaiPBS
——————————————
ประเพณีลอยกระทงในประเทศไทยและประเทศเพื่อนบ้าน
เราไปดูกระทงในแต่ละประเทศกันบ้าง
ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ของเรานั้นมีความสัมพันธ์และความคล้ายคลึงกัน เนื่องจากหลายประเทศมีประเพณีที่เชื่อมโยงกับน้ำและการบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในน้ำ นอกจากนี้ยังมีการผสมผสานวัฒนธรรมพื้นบ้านที่สะท้อนถึงการเคารพธรรมชาติและการขอพรให้เกิดความอุดมสมบูรณ์
ไทย เรียกว่า เทศกาลลอยกระทง การลอยกระทงมีความหมายเชิงขอขมาต่อพระแม่คงคาและบูชาแม่น้ำดังที่กล่าวมา กระทงของไทยมักทำจากวัสดุธรรมชาติ เช่น ใบตอง ดอกไม้ ใบไม้ และมีการตกแต่งด้วยธูปเทียนเพื่อแสดงความเคารพ เทศกาลลอยกระทงยังเป็นโอกาสที่ผู้คนจะได้ขอพรและปล่อยสิ่งไม่ดีไปกับน้ำ สะท้อนถึงการเริ่มต้นใหม่ และในบางพื้นที่จะมีการจัดงานที่รวมถึงการแสดงดนตรีไทย การแสดงพื้นบ้าน และการประกวดกระทงอย่างเป็นเอกลักษณ์
Photo by Thairath
ลาว (เทศกาลบั้งไฟพญานาคและงานบุญออกพรรษา) ในประเทศลาวมีประเพณีบั้งไฟพญานาคซึ่งจัดขึ้นในช่วงออกพรรษา เป็นการเฉลิมฉลองให้กับแม่น้ำโขง มีการปล่อยกระทงที่ทำจากใบตองและดอกไม้เช่นเดียวกับในไทย เพื่อบูชาพญานาคและแสดงความเคารพต่อแม่น้ำโขงที่เป็นสายน้ำหลักของประเทศ นอกจากนี้ ชาวลาวยังมีความเชื่อเกี่ยวกับพญานาคที่เชื่อว่าจะนำโชคลาภและความอุดมสมบูรณ์มาสู่ชีวิต การปล่อยกระทงในแม่น้ำโขงจึงเป็นการเชื่อมโยงกับศรัทธาต่อพญานาค
Photo by Unknow Original Source
พม่า (เทศกาลธาดิงยุต) သီတင်းကျွတ်ပွဲတော်ในพม่า เทศกาลที่คล้ายคลึงกับลอยกระทงของไทยเรียกว่า “ธาดิงยุต” หรือ “เทศกาลแห่งการสิ้นสุดพรรษา” ซึ่งจัดขึ้นเพื่อบูชาพระพุทธเจ้าและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ในเทศกาลนี้ ผู้คนจะปล่อยโคมไฟลอยหรือกระทงที่ทำจากใบตองและดอกไม้ตามแม่น้ำใหญ่ เช่น แม่น้ำอิรวดี เพื่อแสดงความเคารพและขอพรให้เกิดความสุขและความเจริญรุ่งเรือง การปล่อยกระทงในแม่น้ำและโคมลอยในพม่าเป็นสัญลักษณ์ของการปล่อยวางและการแสดงความศรัทธาต่อพระพุทธเจ้า
photo by ออง มินต์ ฮทเว
กัมพูชา (เทศกาลบอนอมทูกและปราสาทน้ำ) ពិធីបុណ្យអុំទូកในกัมพูชามีเทศกาลน้ำที่เรียกว่า “บอนอมทูก” หรือเทศกาลแข่งเรือและปล่อยกระทง ซึ่งจัดขึ้นในช่วงเดียวกับลอยกระทงของไทย เทศกาลนี้จัดขึ้นเพื่อบูชาน้ำและเฉลิมฉลองแม่น้ำโขงที่เป็นเส้นทางสำคัญในการคมนาคมและแหล่งอาหาร การปล่อยกระทงในกัมพูชามีการตกแต่งอย่างสวยงามและมักจะทำจากใบไม้ ดอกไม้ และธูปเทียน การปล่อยกระทงและการแข่งเรือในเทศกาลบอนอมทูกจึงเป็นการแสดงถึงความเคารพต่อสายน้ำและการเชื่อมโยงกับธรรมชาติ
Photo by Chetra Skyline – CC BY-SA 4.0
เวียดนาม (เทศกาลเต๊ดจุงทู) tết trung thu แม้ว่าเวียดนามจะไม่ได้มีประเพณีลอยกระทงเช่นเดียวกับไทย แต่มีเทศกาลไหว้พระจันทร์ที่มีการจัดกระทงหรือโคมไฟเพื่อเฉลิมฉลองคืนวันเพ็ญ ผู้คนจะจัดทำโคมไฟและกระทงเพื่อขอพรให้เกิดความโชคดีและความสงบสุข ซึ่งถือเป็นการเชื่อมโยงกับการบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในน้ำและฟ้า ในบางพื้นที่ของเวียดนาม ยังมีการลอยโคมในน้ำเพื่อขอพรและเป็นการเฉลิมฉลองที่เชื่อมโยงกับธรรมชาติและศรัทธาต่อพลังเหนือธรรมชาติ
Photo by Vietnam.vn
อินเดีย (พิธีคงคาปูชาในเทศกาลดีปาวลี) ในอินเดีย เทศกาลดีปาวลีเป็นการเฉลิมฉลองแสงสว่างและการขอพรจากพระแม่คงคา ชาวฮินดูจะลอยกระทงเล็ก ๆ ที่ทำจากใบไม้หรือโคมไฟไปตามแม่น้ำคงคาเพื่อบูชาและขอขมาแม่น้ำ เนื่องจากแม่น้ำคงคาถือเป็นแม่น้ำศักดิ์สิทธิ์และเป็นสัญลักษณ์ของความบริสุทธิ์ กระทงในอินเดียเชื่อมโยงกับความเชื่อในพระแม่คงคา ซึ่งเป็นที่มาของประเพณีลอยกระทงในไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ด้วย ความเชื่อนี้สะท้อนถึงการเคารพต่อแหล่งน้ำและการขอพรให้ชีวิตมีความสงบสุข
Photo by Thairath
ประเทศต่าง ๆ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และเอเชียใต้มีการลอยกระทงหรือการบูชาน้ำในรูปแบบที่แตกต่างกันไป แต่ทั้งหมดนี้มีจุดร่วมกัน คือการแสดงความเคารพและขอขมาต่อแหล่งน้ำ ตลอดจนการบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เชื่อว่าจะช่วยคุ้มครองและนำความเจริญมาสู่ชีวิต เป็นการแสดงถึงความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดระหว่างมนุษย์กับธรรมชาติ และการให้ความสำคัญกับน้ำในฐานะที่เป็นแหล่งชีวิตและความอุดมสมบูรณ์
——————————————
กระทงในแต่ละภาคของไทย
กระทงในแต่ละท้องถิ่นของไทย
มีเอกลักษณ์และความแตกต่างในด้านการออกแบบและวัสดุที่ใช้ สะท้อนถึงวัฒนธรรมและทรัพยากรที่หาได้ในพื้นที่นั้น ๆ โดยทั่วไปจะมีการใช้วัสดุธรรมชาติเป็นหลักเพื่อเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและแสดงถึงภูมิปัญญาท้องถิ่น
ภาคเหนือ กระทงภาคเหนือมักมีขนาดเล็กและตกแต่งอย่างเรียบง่าย มักใช้ใบตองและดอกไม้ปักเป็นช่อคล้ายพานดอกไม้ วัสดุเหล่านี้มีความอ่อนโยนและสามารถย่อยสลายได้ดี ในบางพื้นที่ เช่น เชียงใหม่ จะใช้กระทงในลักษณะการลอยประทีป มีการจุดเทียนและธูปในกระทงเพื่อสร้างบรรยากาศแห่งความศักดิ์สิทธิ์ ในจังหวัดตากและพื้นที่ภาคเหนือบางพื้นที่ มีการจัดทำ “กระทงสาย” ซึ่งเป็นกระทงขนาดเล็กจำนวนหลายกระทงลอยเรียงกันเป็นสายตามลำน้ำ เกิดเป็นแสงระยิบระยับยามค่ำคืน กระทงสายมีความโดดเด่นที่การลอยเป็นสายยาวตามลำน้ำ มีความสวยงามและสร้างบรรยากาศที่แปลกตา ซึ่งเป็นการเฉลิมฉลองที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวในภาคเหนือ
ภาคกลาง กระทงภาคกลางมักมีขนาดใหญ่และตกแต่งด้วยดอกไม้หลากสีสัน เป็นการนำใบตองมาพับและเรียงซ้อนกันเป็นชั้น ๆ ให้เป็นทรงดอกบัวที่งดงามและดูวิจิตร จะมีการประดับประดาด้วยดอกไม้ให้ดูหรูหรา โดยเน้นสีสันที่สดใสและกลีบเรียงอย่างประณีต นอกจากนี้ยังอาจใช้กลีบกุหลาบและดอกบัวแบบซ้อนเพื่อเพิ่มความวิจิตร
ภาคอีสาน กระทงภาคอีสานมักทำจากต้นกล้วย โดยนำต้นกล้วยมาตัดเป็นฐานและใช้ใบตองหรือใบกล้วยปักตกแต่ง กระทงเหล่านี้มักมีลักษณะที่แข็งแรงและทนทาน เนื่องจากต้องทนต่อกระแสน้ำในแม่น้ำโขง บางพื้นที่นิยมทำกระทงที่มีลักษณะคล้ายตะกร้อ เพื่อให้คงทนและลอยได้นาน ซึ่งสอดคล้องกับประเพณีการลอยกระทงในแม่น้ำขนาดใหญ่
ภาคใต้ กระทงภาคใต้มักใช้กะลามะพร้าวเป็นฐาน ซึ่งให้ความทนทานต่อกระแสน้ำและยังสามารถลอยได้ดี มีการตกแต่งด้วยดอกไม้แบบเรียบง่ายและใช้ใบจากหรือใบตาลในการทำตัวกระทง การใช้กะลามะพร้าวเป็นวัสดุหลักในการทำกระทงเป็นเอกลักษณ์ของภาคใต้ ซึ่งสะท้อนถึงการใช้ทรัพยากรในท้องถิ่นและการสร้างสรรค์จากสิ่งที่มีอยู่ในธรรมชาติ
กรุงเทพฯ และเขตเมือง กระทงในกรุงเทพฯ และเขตเมืองมักมีการประดิษฐ์ที่วิจิตรกว่าภาคอื่น ๆ เนื่องจากเน้นความสวยงามและการประกวดกระทง มีการจัดช่อดอกไม้ในกระทงอย่างหลากหลาย มีการประดับไฟในกระทงเพื่อสร้างความสวยงาม ในเขตเมืองบางพื้นที่เริ่มรณรงค์ใช้กระทงจากขนมปังเพื่อช่วยอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม โดยใช้ขนมปังที่ย่อยสลายง่ายและยังสามารถเป็นอาหารปลาได้ (แต่ปัจจุบันในงานวิจัยเผยให้เห็นว่าขนมปังไปทำปฏิกริยากระบวนการทำงานของเชื้อจุลินทรีย์และดึงเอาออกซิเจนในน้ำทำให้ปริมาณออกซิเจนในน้ำลดลง)
ในภาพรวมทุกแง่มุม ประเพณีลอยกระทงเป็นประเพณีที่สวยงามและมีความหมายที่สะท้อนถึงความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นระหว่างผู้คนกับธรรมชาติ เป็นการแสดง ออกถึงความเคารพและการขอขมาต่อแหล่งน้ำที่เป็นที่พึ่งพิงของชีวิต ประเพณีนี้มีจุดแข็งและข้อดีหลายประการ แต่ก็มีข้อเสียและความท้าทายที่ต้องพิจารณาเช่นกันประเพณีลอยกระทงสะท้อนถึงเอกลักษณ์และคุณค่าทางวัฒนธรรมที่ลึกซึ้ง เป็นโอกาสที่ชุมชนจะมารวมตัวกันและเสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างคนในชุมชน หลายพื้นที่รณรงค์ให้ใช้กระทงจากวัสดุธรรมชาติซึ่งนอกจากจะเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมแล้ว ยังเป็นการให้ความรู้แก่ประชาชนเรื่องผลกระทบของกระทงที่ทำจากวัสดุที่ไม่ย่อยสลาย ยังช่วยดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ส่งผลดีต่อเศรษฐกิจท้องถิ่น ร้านค้า โรงแรมอีกด้วย
——————————————
การตั้งคำถามและส่งเสริมการเรียนรู้
“หากการลอยกระทงเป็นการแสดงความเคารพต่อธรรมชาติ การที่เรายังสร้างขยะในแม่น้ำสวนทางกับความเคารพนี้หรือไม่ อยู่ที่คุณจะเลือก”
——————————————
แหล่งอ้างอิง
- ลอยกระทง – อาศรมวัฒนธรรมวลัยลักษณ์
เว็บไซต์นี้นำเสนอประวัติความเป็นมาและความเชื่อที่เกี่ยวข้องกับประเพณีลอยกระทงในประเทศไทย รวมถึงการอธิบายถึงความเชื่อในศาสนาพราหมณ์และพุทธศาสนา
Cultural Center - วันลอยกระทง ประวัติความเป็นมาประเพณีวันลอยกระทง | วันสำคัญของไทย
แหล่งข้อมูลนี้ให้รายละเอียดเกี่ยวกับประวัติและความเชื่อที่เกี่ยวข้องกับวันลอยกระทง รวมถึงเหตุผลและความเชื่อของการลอยกระทงในแต่ละท้องที่
Today Thailand - Yes or No ลอยกระทงแบบไหนดีต่อสิ่งแวดล้อม? รวมมิตรกระทงรักษ์โลก
บทความนี้นำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมจากการลอยกระทง และแนะนำวิธีการลอยกระทงที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
Spring News - ลอยกระทงวิถีไทย – Thai Studies CU
แหล่งข้อมูลนี้อธิบายถึงความเชื่อและพิธีกรรมที่เกี่ยวข้องกับประเพณีลอยกระทง รวมถึงการเชื่อมโยงกับศิลปะและดนตรีไทย
Thai Studies - วิธีลอยกระทง แบบรักษ์โลก ลดขยะ ลดโลกร้อน
บทความนี้แนะนำวิธีการลอยกระทงที่ช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมและลดขยะ รวมถึงการเลือกใช้วัสดุที่เป็นมิตรต่อธรรมชาติ
Thai Rath - ลอยกระทงกับมลภาวะทางน้ำ ลอยเคราะห์ หรือ ซ้ำเติม สิ่งแวดล้อม?
บทความนี้วิเคราะห์ถึงผลกระทบของการลอยกระทงต่อมลภาวะทางน้ำ และเสนอแนวทางในการลดผลกระทบดังกล่าว
The Standard - พิพัฒน์ กระแจะจันทร์, บรรณาธิการ. 2558. ลอยกระทง เรือพระราชพิธี วัฒนธรรมน้ำร่วมราก. กรุงเทพฯ: โครงการศิลป์เสวนาพิเศษ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ.
ดาวน์โหลดหนังสือได้ที่นี่
- สุจิตต์ วงษ์เทศ. “ลอยกระทง, เห่เรือ มาจากไหน?,” ใน ลอยกระทง เรือพระราชพิธี วัฒนธรรมน้ำร่วมราก. กรุงเทพฯ: โครงการศิลป์เสวนาพิเศษ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ.
- ศิริวรรณ วรชัยยุทธ. “ลอยโคม-ลอยกระทงในแบบวัฒนธรรมจีน,” ใน ลอยกระทง เรือพระราชพิธี วัฒนธรรมน้ำร่วมราก. กรุงเทพฯ: โครงการศิลป์เสวนาพิเศษ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ.
- กิตติพงศ์ บุญเกิด. “เทศกาลทีปาวลี และเทวทีปาวลีของอินเดีย,” ใน ลอยกระทง เรือพระราชพิธี วัฒนธรรมน้ำร่วมราก. กรุงเทพฯ: โครงการศิลป์เสวนาพิเศษ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ.
- พระยาอนุมานราชธน (เสฐียรโกเศศ). 2504. เทศกาลลอยกระทง. กรุงเทพฯ: กรมศิลปากร.
- ลอยกระทงมาจากไหน เกี่ยวข้องกับผีและความตายอย่างไร
บทความที่นำเสนอแหล่งข้อมูลของประวัติความเป็นมาของประเพณีลอยกระทง
The Standard