ในโลกของเรานั้น ทุกสิ่งล้วนถูกสร้างขึ้นมาเพื่อแก้ปัญหา ปัญหาของอะไรบางสิ่งบางอย่าง
เราจึง คิด วิธีการที่จะแก้ปัญหาเพื่อมุ่งไปข้างหน้าสู่อนาคตโดย สร้าง เส้นทางในการก้าวไปข้างหน้า และต่อให้คิดและสร้างแล้ว ก็อาจไม่ประสบความสำเร็จหากพวกเรายังไม่ได้ “ออกแบบ” เส้นทางดังกล่าวนั้นอย่างถูกต้อง ซึ่งการออกแบบในที่นี้ไม่ใช่แค่การออกแบบในเชิงรูปธรรม หรือออกแบบผลิตภัณฑ์เท่านั้น แต่หมายถึงการออกแบบในเชิงโครงสร้าง ออกแบบวิธีคิด และวิธีการทำงาน ด้วยเหตุนี้ต่อให้เจอปัญหาก็สามารถใช้กระบวนการคิดและออกแบบวิธีแก้ปัญหาได้อย่างสร้างสรรค์
สวัสดีครับ กลับมาอีกครั้งกับบทความ Unexpected Design วันนี้เราจะพาทุกท่านไปทำความรู้จักกับ นาฬิกาสำหรับกิจกรรมกลางแจ้งและผจญภัย แน่นอนคงไม่มีแบรนด์ไหนโดดเด่นเท่ากับ Suunto แบรนด์นาฬิกาสัญชาติฟินแลนด์ที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนานและน่าสนใจ เบื้องหลังความสำเร็จของแบรนด์นาฬิการะดับพรีเมียมแห่งนี้ มีเรื่องราวน่าประทับใจซ่อนอยู่มากมาย
ตั้งแต่จุดเริ่มต้นของการก่อตั้ง จนประสบความสำเร็จในการคิดค้นนาฬิกาที่ อึด ถึก ทน พร้อมด้วยเรื่องราวการผจญภัยอันน่าตื่นเต้นและเสี่ยงภัยมากมาย รวมไปถึงจิตวิญญาณแห่งความคิดสร้างสรรค์ ที่ผสมผสานแรงบันดาลใจจากธรรมชาติ ศิลปะ และวัฒนธรรมในการออกแบบนาฬิกา ทำให้นาฬิกา Suunto มีเอกลักษณ์โดดเด่นและและไม่เหมือนใคร
Suunto แปลว่าอะไร?
Suunto อ่านว่า ซูนโต้ ชื่อนี้ไม่ใช่ภาษาญี่ปุ่น แต่เป็นภาษาฟินแลนด์ แปลว่า Direction หรือ ทิศทาง ย้อนหลังไปสมัยคุณปู่คุณย่า เมื่อแปด-เก้าสิบปีที่แล้ว ในวันที่ระบบ GPS ยังไม่เกิดขึ้นในโลกนี้ สมัยนั้นอุปกรณ์ค้นหาตำแหน่งที่สำคัญที่สุดในวงการนักสำรวจ กระทั่งการทหาร ไม่ใช่นาฬิกา แต่เป็น เข็มทิศ แต่เข็มทิศที่ใช้ทั่วไป ที่เข็มวางลอยบนจุดหมุน เวลาใช้งานต้องวางราบกับพื้นเรียบนั้นอาจจะไม่สะดวกมากนักเพื่อให้เข็มมันหมุนตัวได้อิสระ ไม่อย่างนั้น ถ้าเอียง เข็มมันจะชนหน้าปัดแล้วหยุดหมุน แล้วทางออกก็มาถึง ในปี 1932 (86ปีก่อน) นายตัวมัส โวหโลเนน (Tuomas Vohlonen) นักประดิษฐ์และนักสำรวจชาวฟินแลนด์ ได้ยื่นขอจดสิทธิบัตรการผลิตเข็มทิศที่เข็มลอยอยู่ในของเหลวที่มีขนาดเล็ก ใส่อยู่บนข้อมือได้ เข็มทิศแบบนี้ไม่จำเป็นต้องวางราบ ก็ชี้ทิศได้ถูกต้อง ในเอกสารสิทธิบัตร โวหโลเนน เขียนละเอียดถึงขั้นตอนการผลิต การเอาของเหลวใส่กระเปราะ ไปจนถึงการผนึก มีการต่อสู้ทางสิทธิบัตรการผลิตเข็มทิศตัวนี้ดุเดือดดราม่าพอสมควร ด้วยความที่เอกสารยื่นจดมีรายละเอียดชัดเจน ในที่สุดใช้เวลาไปถึง 3 ปี โวหโลเนน ก็ได้สิทธิบัตรนี้ เขาจึงได้ก่อตั้งบริษัท Suunto Oy ในปี 1936 เพื่อผลิตเข็มทิศใส่ข้อมือ M311 รุ่นแรกออกมาวางขาย ( Oy อ่านว่า โออี ภาษาฟินนิชแปลประมาณ บริษัทจำกัด) Logo แรกของ Suunto จึงเป็นรูปเข็มทิศเอกลักษณ์ของ Suunto คือ การใช้งานที่แม่นยำ สะดวก คล่องตัว อึด ทนทายาท เพราะถูกนำไปใช้แบบสมบุกสมบัน ทั้งเดินทางสำรวจ และทหาร
Suunto ผลิตเข็มทิศออกมาอย่างต่อเนื่องมากมาย และเป็นอุปกรณ์มาตรฐานที่ใช้ในการเดินเรือกว่า 50 ประเทศทั่วโลก จุดเปลี่ยนแรกของ Suunto มาถึงเมื่อมีนักดำน้ำชาวอังกฤษ เอาเข็มทิศ Suunto ไปดำน้ำลึก (ใช้ผิดประเภท) แล้วดันใช้งานได้ ทาง Suunto จึงเห็นช่องทางตลาดใหม่ ผลิตเข็มทิศสำหรับนักดำน้ำ รุ่น SK-4 ถือว่าเป็นเข็มทิศดำน้ำรุ่นแรกของโลก วางตลาดในปี 1965 (53ปีก่อน)
ตลาดของ Suunto ก็ขยายจากการผจญภัยบนบก ลงไปสู่ใต้ทะเลลึกนับจากนั้น และในปี 1987 วงการดำน้ำก็ต้องตะลึง เมื่อ Suunto เปิดตัวไดฟ์คอมพิวเตอร์ (อุปกรณ์ติดตามความลึกและเวลาใต้น้ำ) ขึ้นครั้งแรก ก่อนหน้านี้นักดำน้ำจะต้องคำนวนค่าความลึก เวลาดำน้ำ เวลาในการขึ้นผิวน้ำ ฯลฯ ด้วยตัวเอง แต่พอมีไดฟ์คอมฯของ Suunto นาฬิกาจะคำนวณค่าต่างๆ ให้เราได้อัตโนมัติ ทำให้การดำน้ำเป็นกีฬาที่สนุกขึ้น
อีก 10 ปีต่อมา ในปี1997 Suunto ก็เปิดตัว นาฬิกาไดว์คอมฯ ที่มีขนาดใส่บนข้อมือได้เป็นรุ่นแรกของโลก ทั้งวงการดำน้ำถ้าพูดถึงไดฟ์คอม ทุกคนก็นึกถึงแต่ Suunto ต่อมาในปี 1998 Suunto ก็เปิดตัวนาฬิกา รุ่น Vector เป็นนาฬิกาที่มีฟังก์ชันพิเศษสำหรับ Outdoor เรือนแรกของโลก เป็นนาฬิกาดิจิตอลที่มี ABC คือ Altimeter, Barometer, Compass และแถมวัดอุณหภูมิได้ ทำให้ Suunto Vector ตัวนี้ เป็นที่ต้องการมากมายของนักเดินทาง นักไต่เขาทั่วโลก แล้วจุดเปลี่ยนของ Suunto ก็เกิดขึ้นอีกครั้ง ในปี 2012 (6ปีที่แล้วเอง) เมื่อ Suunto นำระบบค้นหาตำแหน่ง ด้วย GPS เข้าไปประกอบกับนาฬิกา Suunto Ambit จึงได้ถือกำเนิดขึ้น เป็นนาฬิกาสำหรับนักเดินป่า ใช้นำทาง และมีโหมดกีฬา วิ่ง ว่าย ปั่น ปีถัดมา 2013 Suunto Ambit2 ก็ออกมาพร้อมกับเพิ่มการรองรับมัลติสปอร์ต เล่นไตรกีฬาได้ Ambit2 เป็นตัวแรกที่เข้ามาประเทศไทย มีตัวแทนจำหน่าย ทำให้ Suunto เริ่มเป็นที่รู้จัก และต่อมาอีกปี นาฬิกา Ambit3 ก็ออกมาสู่ตลาด โดยพัฒนาการเชื่อมต่อแบบ Bluetooth กับโทรศัพท์ได้ เล่นไตรกีฬา วิ่งเทรล โหลดเส้นทาง มีเส้นทางนำทาง มีอัลติมิเตอร์ บารอมิเตอร์ วัดหัวใจโดยสายคาดอก และยังวัดหัวใจตอนว่ายน้ำได้ด้วย
Ambit3 เป็นนาฬิกาที่ตอบโจทย์ในตอนนั้นมาก เช่น App มีความก้าวล้ำสร้างเส้นทางจำลอง 3 มิติได้ มีฟังก์ชั่นวัดการฟื้นตัวร่างกายว่าสมบูรณ์แค่ไหน มี FusedSpeed ที่บางครั้งหา GPS ไม่พบ มันจะสามารถคำนวณระยะทาง ความเร็วได้อัตโนมัติ จะพบว่านักวิ่งเทรลระดับโลกมากมาย เลือกใช้ Suunto Ambit3 Peak เป็นอุปกรณ์คู่ใจ จนถึงวันนี้ กว่า 4 ปี เราก็ยังเห็นนักวิ่งทั้งไทยและต่างชาติอีกหลายต่อหลายคนใช้อยู่ แล้วก็มักได้ยินเสียงบ่นปนขำๆ “เซ็ง ที่มันไม่ยอมพังซะที” การเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นเสมอที่ Suunto
เพียง 2 ปีที่ Ambit3 โลดแล่นในตลาดกีฬา Suunto ก็หยุดพัฒนาตระกูล Ambit ลงเพื่อเปิดทางให้กับ Suunto Spartan นาฬิกาสายพันธุ์ใหม่ เป็นนาฬิกาที่ประกอบและทดสอบด้วยมือคน ผ่านมาตรฐาน Racing Proof กันสะเทือนจากการหล่นกระแทก รับประกันถึง 2 ปีเต็ม Suunto Spartan ใช้งานได้ที่ อุณหภูมิติดลบ -20 องศา ถึง +60 องศา เซลเซียส ด้วยคอนเซฟ “ทุกที่ที่มนุษย์ไปถึง Suunto ไปได้” Spartan มีวิธีแบ่งรุ่นนาฬิกาไม่เหมือนแบรนด์ใดๆ รุ่นเล็กอย่าง Trainer ไปจนถึงรุ่นใหญ่อย่าง Ultra วางฟังก์ชั่นการใช้งานเหมือนกันถึง 90 กว่าเปอร์เซ็นต์ ความต่างคือขนาดหน้าปัดแสดงผล ทัชสกรีน วัสดุที่ใช้ และความละเอียดสูงสุดของ GPS ทำให้ Spartan Trainer ก็สามารถเล่นไตรกีฬา วิ่งเทรล โหลดเส้นทางใช้นำทางได้ วิ่ง ว่ายน้ำ ปั่น เวท วัดหัวใจข้อมือ รองรับภาษาไทย ฯลฯ เป็นนาฬิการุ่นที่คุ้มค่ามากๆ
โวหโลเนน เป็นนักออกแบบนาฬิกาที่มีความคิดสร้างสรรค์และมุมมองแปลกใหม่ เขามักได้แรงบันดาลใจจากธรรมชาติรอบตัว ทั้งสิ่งมีชีวิตและสิ่งไม่มีชีวิต และนำมาประยุกต์ใช้ในการออกแบบนาฬิกาอย่างน่าสนใจ ตัวอย่างเช่น นาฬิกาดำน้ำที่ได้แนวคิดจากลักษณะสัตว์ทะเล นาฬิกาสำหรับปีนเขาที่ศึกษาจากท่าทางการเดินของนักปีนเขาและสัตว์บนภูเขา โวหโลเนนยังให้ความสำคัญกับการออกแบบให้สวยงามและมีเอกลักษณ์ โดยนำเอาแนวคิดจากงานศิลปะและวัฒนธรรมต่างๆ มาผสมผสาน รวมถึงใช้วัสดุธรรมชาติหายากเช่นกระดูกสัตว์ เปลือกหอย และแร่ธาตุบางชนิด นวัตกรรมของเขาคือการนำเทคโนโลยีใหม่ๆ มาใช้ในการออกแบบ เช่น โลหะผสมทนทาน เทคนิคขึ้นรูปด้วยความร้อนสูง และการออกแบบจำลอง 3 มิติ
โวหโลเนนยังร่วมมือกับศิลปินท้องถิ่นฟินแลนด์ในการออกแบบลวดลายและตกแต่งนาฬิกา โดยนำเอาองค์ประกอบศิลปะพื้นบ้านมาผสมผสาน เพื่อสร้างเอกลักษณ์และสานต่อมรดกทางวัฒนธรรม ด้วยความคิดสร้างสรรค์และกล้าคิดนอกกรอบ ประกอบกับจินตนาการและความละเอียดลึกซึ้ง จึงทำให้นาฬิกาของโวหโลเนนมีเอกลักษณ์โดดเด่น แปลกใหม่
เรื่องราวเหล่านี้ แม้จะไม่ค่อยปรากฏในเอกสารประวัติ แต่ก็สะท้อนให้เห็นถึงจิตวิญญาณและความเสี่ยงภัยอันน่าชื่นชมของผู้ก่อตั้งของ Suunto ที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของนาฬิกายี่ห้อนี้และก็เป็นสิ่งที่ได้รับความนิยมมาจนทุกวันนี้