ด้านมืดของผู้ตามหาแสงสว่าง = The dark side of the light chasers

ชื่อเรื่อง : ด้านมืดของผู้ตามหาแสงสว่าง = The Dark Side of the Light Chasers

ผู้เขียน : Debbie Ford

ผู้แปล : ภัทริณี เจริญจินดา

สืบค้นจาก : http://opac.library.mju.ac.th/opac2/BibDetail.aspx?bibno=346669

“The Dark Side of the Light Chasers” พูดถึงแง่มุมทางจิตวิทยาที่สำคัญมากในการทำความเข้าใจตัวเอง ทั้งเรื่อง Shadow (เงามืดในใจ) กระบวนการทางจิตที่เรียกว่า projection (การโยนสิ่งที่อยู่ในตัวเราไปใส่ในตัวคนอื่นโดยไม่รู้ตัว) เรื่อง sub-personalities (ตัวตนหรือบุคลิกย่อยต่างๆ ในตัวเรา) รวมถึงวิธีที่เราจะเข้าไปรับรู้และสร้างสัมพันธ์กับตัวตนเหล่านั้นให้เสริมสร้างชีวิตแทนที่จะบั่นทอนเรา หนังสือเล่มนี้ได้พูดถึงแง่มุมเหล่านี้ในแบบที่คนทั่วไปเข้าใจได้ไม่ยากและเป็นประโยชน์ต่อชีวิต หนังสือเล่มนี้ไม่เพียงขยายการมองตัวเองให้กว้างขึ้น หากยังขยายมุมมองที่เรามีต่อผู้คนในชีวิตไปจนถึงเพื่อนร่วมสังคม ให้เราเท่าทันอคติในใจมากขึ้น เพราะทุกคนต่างหนีไม่พ้นกลไกทางจิตวิทยาอันแยบยลนี้ ที่สำคัญคือ มันจะเรียก “ความเป็นมนุษย์” ของเรากลับคืนมาจากอะไรก็ตามที่ได้พรากมันไป

  • ทำไมคุณถึงรู้สึกรุนแรงกับคนบางประเภท (รังเกียจมาก ชื่นชมมาก)?
  • ทำไมคุณถึง “อารมณ์ขึ้น” ได้ง่ายมากกับนิสัยบางอย่างของคนบางคน?
  • ทำไมคุณถึงชักนำคนบางประเภทหรือสถานการณ์บางอย่างเข้ามาในชีวิตซ้ำๆ?
  • ทำไมพฤติกรรมไม่ท่าเดิมๆ บางอย่างของคุณถึงแก้ไม่หายสักที?

ความรู้สึกรุนแรงที่เรามีต่อคนบางประเภท หรือนิสัยบางอย่างของคนบางคน รวมถึง เรื่องเดิมๆ เหตุการณ์ซ้ำๆ ที่เกิดขึ้นในชีวิต คือเบาะแสสำคัญถึง “ด้านมืด” ในตัวเรา ถึงอารมณ์ความรู้สึกและคุณสมบัติบางอย่างของตัวเราที่เราไม่ยอมรับรู้หรือเผชิญหน้า จนมันกลายเป็นพลังงานทางจิตที่มีชีวิตของมันเอง ซึ่งจะคอยครอบงำชีวิตเรา เฝ้าทำลายความสัมพันธ์ เวลาที่เราไม่ยอมรับบางด้านของตัวเรา เราจะหันไปตัดสินคนอื่นที่แสดงคุณสมบัติพวกนั้นออกมา หรือไม่เราก็จะชักนำผู้คนหรือสถานการณ์บางอย่างเข้ามาในชีวิต เพื่อสะท้อนให้เราเห็นด้านที่เราหลงลืมไปในตัวเอง The Dark Side of the Light Chasers อธิบายถึงกระบวนการที่เราซ่อนเร้นและปฏิเสธ “ด้านมืด” ในตัวเอง (ไม่ว่าเราจะรู้ตัวหรือไม่) รวมถึงผลกระทบต่อชีวิตและการมองโลกของเรา ทั้งยังช่วยให้เรารับรู้ เปิดรับและเข้าไปสื่อสารกับแรงขับ “ด้านมืด” ในตัวเรา จนสุดท้ายได้พบสิ่งดีๆ ที่มาพร้อมกับตัวตนในมุมมืดนั้น หนังสือเล่มนี้จะช่วยให้เราเข้าใจตัวเองมากขึ้น เห็นตัวเองในมุมที่ไม่เคยรับรู้มาก่อน อีกทั้งยังช่วยเยียวยาจิตใจ เรียกพลังสร้างสรรค์ของเรากลับคืนมา ให้เรามีชีวิตที่งอกงามจากความจริงแท้ในตัวเราเอง ไม่ต้องเกลียดกลัวหรือหลีกหนีสิ่งใดในตัวเองอีก ไม่ต้องมีชีวิตที่ปริแยกอยู่ข้างในอีกต่อไป

หนังสือเล่มนี้ชี้ให้เห็นว่าความมืดมนหรือปัญหาที่หาทางออกไม่ได้ในชีวิตเรานั้น แท้จริงแล้วคือภาพสะท้อนสิ่งที่อยู่ในใจเราหากเราเพียงแต่มองกลับเข้าไปในตัวเอง เราจะเห็นทางออกทุกอย่างในนั้น ทั้งยังจะพบอีกว่าคุณสมบัติทุกอย่างในตัวเราและคนอื่นที่เราเคยแยกขาวแยกดำชัดเจน ที่เราเคยรังเกียจหรือหลงใหลแท้จริงแล้วภายในคุณสมบัติเหล่านั้นมีของขวัญล้ำค่าที่จะทำให้ภาพฝันของเรากลายเป็นจริงได้ แต่สิ่งนี้จะเป็นไปได้ก็ต่อเมื่อเราโอบรับคุณสมบัติทุกอย่างด้วยความตระหนักรู้ กลับมาแนบชิดกับเงามืดในตัวเรา ซึ่งเป็นแหล่งพลังศักดิ์สิทธิ์ของตะเกียงไม่รู้ดับที่ส่องแสงสว่างแก่ชีวิตเราและผู้อื่นชั่วนิรันดร์

สารบัญ

เกริ่นนำ โดย นีล โดนัลด์ วอลช์

อารัมภบท ฉบับครบรอบ 10 ปี

บทที่ 1 โลกภายนอก โลกภายใน

บทที่ 2 ไล่ตามเงามืด

บทที่ 3 โลกอยู่ในตัวเรา

บทที่ 4 หวนคืนสู่ตัวตนที่ทอดทิ้

บทที่ 5 รู้จักเงามืด รู้จักตัวเอง

บทที่ 6 “ฉันเป็นอย่างนั้น”

บทที่ 7 โอบรับความมืด

บทที่ 8 ตีความตัวเองใหม่

บทที่ 9 ให้แสงภายในส่องสว่างออกมา

บทที่ 10 ชีวิตที่ควรค่า

บทส่งท้าย

 

ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพ :

www.SEED.com

www.naiin.com 

www.Google.com 

www.DekD.com

www.Pantip.com

www.shopee.com

สนใจหนังสือเล่มนี้ ติดต่อขอใช้บริการ :

Books Seeking & Delivery Service (บริการจัดส่งสำหรับอาจารย์ บุคลากร และนักศึกษา มหาวิทยาลัยแม่โจ้)

หากพบปัญหาหรือต้องการข้อมูลเพิ่มเติม สามารถติดต่อได้ที่ :

เคาน์เตอร์ One Stop Service ชั้น 1

โทร 053-873510  

Facebook MJU Library