Movie Critical


ภาพยนตร์เรื่อง: The Kingmaker / แด่ลูก ผัว และตัวฉันเอง… อีเมลดา มาร์กอส

ผู้กำกับภาพยนตร์:  Lauren Greenfield
ผู้เขียนบท: Lauren Greenfield
นักแสดงนำ: Imelda Marcos, Etta Rosales, Ferdinand Marcos
ความยาว: 101 นาที
แนว/ประเภท: Documentary
ประเทศ: สหรัฐอเมริกา-เดนมาร์ก
สตูดิโอ/ผู้สร้าง/ผู้จัดจำหน่าย: Evergreen Pictures, Candescent Films

ภาพยนตร์สารคดีที่ตีแผ่เรื่องราวของตระกูลการเมืองชื่อดังผ่านปากของอดีตสตรีหมายเลข 1 ของฟิลิปปินส์
หลายครั้งหลายหนที่อยากจะไปดูหนังสารคดีในโรงสลับอารมณ์บ้างเหมือนกันนะ แต่ก็หลายครั้งเช่นกันที่หาโอกาสไม่ใคร่ได้ วันนี้ ปะเหมาะเคราะห์ดีแล้ว เข้าไปเจอหนังสารคดีตระกูลมาร์กอส The Kingmaker หรือชื่อไทย แด่ลูก ผัว และตัวฉันเอง… อีเมลดา มาร์กอส

ใครหลายคนคงเคยได้ยินว่า เบื้องหลังความสำเร็จของผู้ชาย ก็คือการมีผู้หญิงคอยเกื้อหนุนอยู่ และแม้ในวันนี้ อดีตประธานาธิบดีเฟอร์ดินานด์ มาร์กอส แห่งฟิลิปปินส์จะได้จากโลกนี้ไปแล้ว แต่จิตวิญญาณแห่งความเป็นมาร์กอสยังคงอยู่ในสายตาของภรรยาผู้เป็นอดีตสตรีหมายเลข 1 ของประเทศ ทั้งยังมีลูกและหลานที่ยังพร้อมจะสานต่อเรื่องราวทางด้านการเมือง

และหนทางนั้นกำลังถูกนำมาเปิดโปง เปิดเผย และตีแผ่ในหนังเรื่องนี้

เรื่องย่อหนัง ‘The Kingmaker’

“ไม่มีใครหยุดฉันได้” คือหนึ่งในคำกล่าวที่ยืนยันตัวตนของสตรีชื่อ อีเมลดา มาร์กอส ได้ชัดเจนที่สุด! เธอเป็นทั้งผู้อยู่เบื้องหลังและตัวแสดงเบื้องหน้าของ “ตระกูลมาร์กอส” ครอบครัวที่ปกครองประเทศฟิลิปปินส์เป็นเวลายาวนานและแม้ช่วงเวลาแห่งความเรืองรองจะผ่านพ้น

นั่นแหละคือเรื่องที่แสนจะย่อของหนังสารคดีเรื่องนี้ มันคือเรื่องราวสั้นๆ ในหนังเพียง 101 นาทีที่เล่าเรื่องราวยาวๆ ของคนตระกูลมาร์กอส ผ่านความคิดของอดีตสตรีหมายเลข 1 ของฟิลิปปินส์ อีเมลดา มาร์กอส และอีกหลายต่อหลายคนนั่นเอง

Courtesy of Lauren Greenfield/Showtime

รีวิวหนัง ‘The Kingmaker’

ในฐานะที่เป็นประเทศเพื่อนบ้าน และชื่อของประธานาธิบดี เฟอร์ดินานด์ มาร์กอส ก็ดังก้องอยู่ในความทรงจำเชื่อมโยงกับชื่อประเทศฟิลิปปินส์มาตั้งแต่เด็ก และเราก็ได้ยินชื่อ อีเมลดา มาร์กอส ได้ยินชื่อของ คอราซอน อากีโน ส่วนคนปัจจุบัน ก็ได้ยินชื่ออยู่เนืองๆ โรดริโก ดูแตร์เต ไง

ได้ดูหนังสารคดีเรื่องนี้แล้ว ทำให้ได้รู้จักกับประวัติความเป็นมาของประเทศนี้มากขึ้นกว่าทุกที โดยเฉพาะเรื่องราวทางการเมืองที่เกี่ยวเนื่องกับตระกูลนี้ หนังมีความร้อยเรียงพาเราไปทางโน้นทีทางนี้ที แต่เราก็ไม่มีปัญหาในการจับต้นชนปลาย

ระหว่างดูมันก็รู้สึกได้ว่าเรื่องราวดูคล้ายคลึงกันไปในหลายๆ ประเทศแถบนี้ที่ก็มักจะมีรูปแบบของปัญหาคล้ายๆ กัน อันที่จริงมันก็เป็นธรรมชาติของมนุษย์นี่นะ สิ่งมีชีวิตชนิดนี้นอกจากจะอยู่ร่วมกันเป็นสังคมแล้ว ยังแสวงหาอำนาจและเงินกันด้วยนะ ซึ่งหลายครั้งการจะมีอำนาจมันก็ต้องใช้เงิน พอมีอำนาจแล้วก็ใช้มันเพื่อแสวงหาเงิน หมดอำนาจหมดเงิน คนก็ห่างหาย มันเป็นความจริงที่พบเจอได้ไม่ว่าโลกนี้จะผ่านไปนานเท่าใด

แต่หนังไม่ได้มีแต่บทสัมภาษณ์ของสุภาพสตรีหมายเลข 1 นะ
นอกจากจะฟังคำบอกเล่าถึงความคิดความรู้สึกของเธอที่มีต่อเรื่องราวต่างๆ ที่ผ่านพ้นมา ก็ยังถือไมค์จ่อปากคนอีกมากมายที่เคยอยู่ฝั่งเดียวกันและฝั่งตรงข้าม รวมทั้งชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนจากการบริหารประเทศของคนตระกูลนี้ด้วย เรียกว่า นำเสนอมันทั้งสองด้าน ให้คนดูนั่งดูแล้วคิดกันเอาเองว่าจะเชื่อถือฝั่งไหน
ในความคิดของอีเมลดา เธอมองว่าตนคือแม่ของคนฟิลิปปินส์ ทุกคนที่เธอทำล้วนเป็นสิ่งดี แต่กับอีกหลายคนเขาไม่ได้คิดเช่นนั้น การขึ้นมามีอำนาจของสามี พร้อมๆ กับการใช้จ่ายอันสุรุ่ยสุร่ายของเธอกลายเป็นสิ่งอื้อฉาว แต่พอวันหนึ่งหมดสิ้นอำนาจ ความมั่งมีถูกยึดคืน ครอบครัวถูกขับไล่ออกนอกประเทศ แต่เธอก็ดึงด้นดั้นด้นหันหาทางกลับประเทศและกรุยทางให้กับลูกชายได้กลับมามีอำนาจด้วยวิถีอันแยบยล

หนังเลือกจะเล่าให้ภาพมันขัดแย้งกับคำสัมภาษณ์ของคนตระกูลมาร์กอส จนกลายเป็นการกัดแบบแสบๆ คันๆ
สิ่งที่เห็นในหนังอาจดูคล้ายคลึงกับสิ่งที่เคยเกิดขึ้นในประเทศของเรา เอาจริงๆ มนุษย์มันก็มีเท่านี้แหละครับ อยู่กันเป็นกลุ่มก้อนก็มองหาการปกครองที่คนยอมรับ ก็จะมีบางคนที่มองเห็นมันเป็นหนทางแห่งอำนาจ บารมีและเงินทองความร่ำรวย ทั้งยังเลือกจะให้มันเป็นสิ่งที่สืบทอดกันทางสายเลือดได้อีก

‘ความจริง’ ที่ไม่ขำ นั่งดูไปก็เหมือนโดนมีดกรีดแทงตัวเอง