ช่วงเวลาของปีนี้มักเป็นช่วงที่เรามักจะจินตนาการถึงอนาคต มองหาสัญญาณของสิ่งที่อาจจะเกิดขึ้นเพื่อให้เราสามารถกำหนดทิศทางของตัวเองและธุรกิจเพื่อรอรับความสำเร็จอย่างมั่นคง ที่งาน Facebook IQ มีการเปิดตัวสิ่งที่เรียกว่า Shifts for 2020 เพื่อเป็นแสงสว่างส่องทางนำเทรนด์และช่วยให้คุณเข้าใจและหาวิธีเปลี่ยนมันให้เป็นโอกาส
นี่คือบทสรุปของการคาดการณ์ที่สำคัญในปี 2020 และหลังจากนั้น
1.ผู้คนจะขยายความคิดเกี่ยวกับอัตลักษณ์ของตน: จากแนวคิดเรื่องเพศไปสู่การเป็นพลเมืองโลก ขอบเขตของสังคมดั้งเดิมจะถูกหลวมรวมเมื่อเจอกับเทคโนโลยี ตัวอย่างเช่นเราเห็นคนขยายความรู้สึกของตนเองให้กว้างขึ้นในประเด็นที่เกี่ยวกับเอกลักษณ์ประจำชาติด้วยการเชื่อมต่อกับชุมชนทั่วโลกที่ยิ่งใหญ่กว่า ตามการสำรวจตลาดโดยบีบีซี 14 แห่ง เมื่อให้ระบุเกี่ยวกับตัวตนของพวกเขา หนึ่งในสองคนจะระบุสิ่งแรกและสิ่งสำคัญที่สุด คือการเป็นพลเมืองของโลก และมีผู้ใช้ Facebook มากกว่า 1.2 พันล้านคนที่เชื่อมต่อกับธุรกิจในประเทศอื่นๆ ความคล่องตัวข้ามพรมแดนนี้จะปรากฏขึ้นในการช็อปปิ้งของผู้คน ด้วยล่มสลายของขอบเขตแบบดั้งเดิมจะทำให้ผู้คนสามารถระบุตัวตนได้มากขึ้นในรูปแบบที่เป็นส่วนตัวและซับซ้อนมากขึ้น ไม่ว่าคุณจะเลือกที่จะคิดทบทวนพนักงานของคุณหรือขยายธุรกิจของคุณไปสู่ตลาดโลก โอกาสของคุณในการเชื่อมต่อกับผู้คนจะมีความหลากหลายมากขึ้นกว่าที่มันเคยเป็น
2.เทคโนโลยีใหม่ๆ จะทำให้การสื่อสารเป็นไปอย่างเป็นธรรมชาติมากขึ้น: ผู้คนจะก้าวข้ามผ่านยุคที่มีหน้าจอเป็นตัวกลาง แะเข้าไปสัมผัสกับชีวิตจริงที่มีประสบการณ์และมีส่วนร่วมกับโลกได้อย่างแท้จริงมากขึ้น โดยมี 3V เป็นจุดที่กระตุ้นให้เกิดการเปลี่ยน อันได้แก่ Video, Voice และ VR คนจะมองวิดีโอเป็นคอนเทนท์หลักบนฟีดที่พวกเขาจะเลือกเสพ จากข้อมูลการใช้งานในสหราชอาณาจักรและสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ พบว่าวิดีโอในรูปแบบต่างๆ ได้รับความสนใจมากกว่าภาพนิ่งถึง 5 เท่าบนแพลตฟอร์มอย่าง Facebook และ Instagram ในส่วนของ Voice คนจะกลับมาพูดมากขึ้น การพูดเป็นจุดเริ่มต้นของธรรมชาติของการสื่อสาร ที่ต่างไปคือพวกเขาจะพูดเพื่อปฏิสัมพันธ์กับอุปกรณ์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นลำโพง หรือรถที่เชื่อมต่อกับอุปกรณ์ต่างๆ ได้ และเมื่อเราสำรวจผู้คนทั่วทั้งไนจีเรีย เกาหลีใต้ สหราชอาณาจักร และสหรัฐอเมริกา พบว่าร้อยละ 68 เห็นว่า VR เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน 3V มีความโดดเด่นในแง่ของการสร้างเนื้อหา บริบท ความเสมือนจริง และใช้งานง่าย จะทำให้อุปกรณ์ต่างๆ กลายเป็นประสบการณ์รอง
3.โทรศัพท์มือถือจะกำหนดเส้นทางการจับจ่ายของผู้คน: ตอนนี้คนไม่เพียงแค่สไล์มือถือปรื้ดๆ เท่านั้น พวกเขายังช้อปง่ายจ่ายไวอีกด้วย การวิจัยเกี่ยวกับนักช็อปในสหรัฐอเมริกาพบว่าการเดินช็อปปิ้งบนมือถือของคนใช้เวลาน้อยกว่าช้อปบนคอมพิวเตอร์ 13% เราพบว่าช่วงที่คนพบสิ่งที่เขาอยากได้และช่วงเวลาที่กดซื้อแทบจะเป็นเวลาเดียวกัน และชอบซื้อขายกับร้านที่สามารถส่งข้อความไปหาได้มากกว่า พวกเขาชอบอะไรที่รวดเร็วและปรสบการณ์ที่ลื่นไหล และหากคุณนำเสนอประสบการณ์เหล่านี้ให้แก่พวกเขาได้ คุณก็จะสามารถปลดล็อก Conversion ได้มากขึ้น เนื่องจากการเดินทางของผู้บริโภคมีความรวดเร็วยิ่งขึ้น
4.Mobile จะนำคนออนไลน์หลายพันล้านคน: ในปี 2020 มากกว่าครึ่งหนึ่งของโลกจะเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ต และหลายคนในจำนวนนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากตลาดเกิดใหม่ จะเข้าใช้งานอินเทอร์เน็ตเป็นหลักผ่านทางโทรศัพท์มือถือของตน คนรุ่นใหม่ที่เชื่อมต่อเหล่านี้มีมูลค่าต่อการเชื่อมต่อสูงมาก ยกตัวอย่างเช่นข้ามทะเลทรายซาฮาราแอฟริกาหลายคนประสบปัญหาเกี่ยวกับการครอบคลุมของเครือข่ายและยอมจ่ายในราคาแพงเพื่อให้ได้ข้อมูล อย่างไรก็ตามการวิจัยในเคนย่า ไนจีเรีย และแอฟริกาใต้เปิดเผยว่าคนส่วนใหญ่พบวิธีที่สร้างสรรค์ในการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต ทำให้ช่วยเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงได้ถึง 77 เปอร์เซ็นต์ต่อวัน ซึ่งการเชื่อมต่อของผู้คนในตลาดเกิดใหม่ที่ลื่นไหลนี่เอง ที่ช่วยสร้างเนื้อหาใหม่ๆ ในบริบทที่แตกต่างกัน เช่นตอนเช้าที่คนเดินทางก็เลือกใช้คอนเทนท์เบาๆ ที่ไม่กินดาต้าเน็ตมากนัก แล้วค่อยปล่อยวิดีโอในตอนที่คนอยู่ออฟฟิศเพราะมี WiFi ในที่ทำงาน
5.อุปกรณ์ต่างๆ จะทำงานหนักขึ้นเพื่อให้ผู้คนสามารถใช้ชีวิตได้อย่างชาญฉลาด: หลายปีมาแล้วเราได้พูดถึงตู้เย็นที่สั่งซื้อนมได้เอง เมื่อมันรู้ว่าอันที่แช่อยู่กำลังจะหมดอายุ ดูเหมือนว่าสิ่งนี้จะมาถึงในที่สุด และมีข้อมูลที่น่าสนใจว่าคนจะยอมรับเทคโนโลยีสมาร์ทต่างๆ ที่แตกต่างกันตามความต้องการทางวัฒนธรรมและภูมิศาสตร์ของตน ตัวอย่างเช่นการศึกษาจาก Ofcom 9 แห่งเปิดเผยว่าชาวอิตาเลียนมีแนวโน้มที่จะมีเครื่องใช้อัจฉริยะกว่า 1.44 เท่า ในขณะที่ชาวสเปนมีแนวโน้มที่จะมีระบบเสียงสมาร์ท 1.3 เท่า ลองพิจารณาหาวิธีที่คุณจะสามารถสร้างผลิตภัณฑ์ แพลตฟอร์ม หรือประสบการณ์ที่พอดีกับระบบนิเวศน์ที่เกิดขึ้นใหม่นี้ ที่จะสามารถปรับปรุงและเพิ่มคุณค่าให้กับชีวิตของผู้คนได้
เราอยู่ห่างจากปี 2020 เพียง 25 เดือน ซึ่งหมายความว่าไม่มีเวลาไหนที่ดีกว่าตอนนี้อีกแล้ว สำหรับการเริ่มเตรียมตัวรับสิ่งที่กำลังจะเกิด หวังว่า Shifts for 2020 ของ Facebook IQ จะช่วยให้คุณค้นพบสิ่งที่พวกเขาตั้งใจจะกล่าว ที่เหมาะสำหรับแผนการตลาดในระยะยาวของคุณ
Credit : BrandBuffet , ADWEEK
