เกษตรกรหน้าใส เผยเทคนิคปลูกแตงกวาอย่างเซียน ผลผลิตดก เก็บได้นาน ฟันรายได้วันละ 2,000-3,000 บาท

ชื่อบทความเรื่อง : เกษตรกรหน้าใส เผยเทคนิคปลูกแตงกวาอย่างเซียน ผลผลิตดก เก็บได้นาน ฟันรายได้วันละ 2,000-3,000 บาท

ผู้เขียน : ธาวิดา ศิริสัมพันธ์

ชื่อวารสาร : เทคโนโลยีชาวบ้าน ปีที่ 34 ฉบับที่ 766

บรรณานุกรม :
ธาวิดา ศิริสัมพันธ์. (2565). เกษตรกรหน้าใส เผยเทคนิคปลูกแตงกวาอย่างเซียน ผลผลิตดก เก็บได้นาน ฟันรายได้วันละ 2,000-3,000 บาท. เทคโนโลยีชาวบ้าน, 34(766), 34-37.

              คุณกนกวรรณ มีภู่ หรือ น้องปูเป้ อยู่ที่บ้านโนนคร้อ ตำบลบ้านขาม อำเภอจัตุรัส จังหวัดชัยภูมิ เกษตรกรหน้าใส วัย 20 ปี หันเอาดีด้านงานเกษตร ใช้ธรรมชาติบำบัดในช่วงรักษาอาการภูมิแพ้ จนสามารถพัฒนาฝีมือตนเองไปสู่ขั้นเกษตรกรมืออาชีพ ที่ฝีมือในการปลูกแตงกวาของเธอไม่เป็นสองรองรุ่นใหญ่แน่นอน

              อายุน้อย ไม่เป็นอุปสรรคในการทำเกษตร หลายท่านคงสงสัยว่าน้องปูเป้จะสามารถทำงานเกษตรให้ประสบความสำเร็จได้อย่างไร ซึ่งน้องปูเป้บอกว่า สำหรับตนคิดว่าทฤษฎีไม่สู้ประสบการณ์ ไม่สู้การได้ลงมือทำและเรียนรู้ผิดถูกจากสิ่งที่ทำ เพราะหากเมื่อได้ลองลงมือทำแล้วจะรู้เลยว่าความรู้ที่อ่านจากหนังสือ เมื่อนำมาปฏิบัติจริงๆ จะไม่เหมือนกับที่เคยอ่านมาเลย ซึ่งจริงอยู่ที่ความอายุน้อยของตนอาจเสียเปรียบในเรื่องของประสบการณ์ แต่ข้อได้เปรียบของคนอายุน้อยก็มีเหมือนกันคือ

              1. ในแง่ของคนรุ่นใหม่ เราทันโลก เรามีกำลัง เรามีความคิด และพร้อมที่จะเปิดรับสิ่งใหม่ๆ มีการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมการเกษตรเข้ามาช่วยลดต้นทุนการผลิตภายในสวนได้ รวมถึงการสื่อสารการตลาด โดยใช้เทคโนโลยีสื่อโซเชียลเป็นตัวกลางในการขายสินค้า ไม่ต้องยอมให้พ่อค้าคนกลางกดขี่ราคาอีกต่อไป

              2. ส่วนของการลงมือปฏิบัติ ตนจะมีวิธีคิดและวิธีทำที่แตกต่างไปจากคนรุ่นเก่า คือก่อนจะปลูกพืชแต่ละชนิด จะต้องมีการคิดวิเคราะห์องค์ประกอบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการวิเคราะห์ดิน ว่าเหมาะสมที่จะปลูกพืชหรือเปล่า ถัดมาคือการเลือกเมล็ดพันธุ์ที่มีคุณภาพมาปลูก ต้องทนโรค ทนแมลง และสุดท้ายคือปุ๋ย โดยที่สวนตอนนี้เริ่มมีการปรับเปลี่ยนจากเมื่อก่อนทำเกษตรเคมีเพียงอย่างเดียว ตอนนี้เปลี่ยนมาทำเกษตรอินทรีย์ได้แล้วบางส่วน ซึ่งในส่วนของปุ๋ยที่นำมาใช้ก็จะมีการคิดค้นสูตรปุ๋ยหมักจากผัก ผลไม้ เพราะด้วยปัญหาสุขภาพของตนเอง จึงอยากที่จะปลูกผักปลอดสารที่ปลอดภัยกับตนเองทั้งตอนปลูกและตอนบริโภค

              เทคนิค การปลูกแตงกวาแบบเซียนอายุน้อยผลผลิตดก ปลอดภัยโรคพืช การตลาดรุ่ง สำหรับในตอนเริ่มต้นทำเกษตรถือเป็นบททดสอบที่หินสำหรับตนอยู่เหมือนกัน เนื่องด้วยประสบการณ์ที่มีน้อย จึงต้องพยายามศึกษาจากทุกสื่อเท่าที่จะทำได้ ทั้งในส่วนของบทความในหนังสือ ดูสื่อวิดีโอในยูทูป รวมถึงการซึมซับประสบการณ์จากรุ่นบรรพบุรุษ โดยในช่วงเริ่มต้นของการเรียนรู้ตนจะให้ความสนใจในเรื่องดินและปุ๋ยมาเป็นอันดับหนึ่ง เพราะมองว่าการจะปลูกพืชให้ดีได้ดินต้องดี ปุ๋ยต้องดี ถือว่าประสบความสำเร็จไปเกินครึ่ง ส่วนอันดับถัดมาคือการศึกษาพฤติกรรมของพืช และโรคของพืช             

              การปลูกแตงกวาให้ได้ผลผลิตดก รสชาติหวาน เก็บได้นานถึง 30 มีด ปัจจัยสำคัญคือ

  1. ดิน ถ้าดินดีปุ๋ยไม่ต้องใส่เยอะก็ได้ โดยดินที่เหมาะกับการปลูกพืช จะต้องเป็นดินร่วนซุย กำแล้วไม่แน่นเกินไป แต่ถ้าหากพื้นที่ของใครมีสภาพดินเค็ม ก็สามารถหาซื้อปุ๋ยปรับสภาพดินตามร้านขายอุปกรณ์การเกษตรทั่วไปได้ หรือถ้าหากสภาพดินเป็นกรด ดินเปรี้ยว สามารถแก้ได้ด้วยการใช้ปูนขาวโรยหน้าดินแล้วไถพรวน หากไม่ไถพรวนเมื่อฝนตกลงมาจะทำให้หน้าดินแข็ง ปลูกพืชแล้วไม่งาม
  2. วางแผนและสำรวจราคาผลผลิตก่อนลงมือปลูก เพื่อไม่ให้สินค้าล้นตลาด ส่งผลทำให้ราคาตก
  3. เลือกปลูกพืชที่สามารถปลูกร่วมกันได้เพื่อบรรเทาความเหนื่อย ตัวอย่างของที่สวนจะปลูกแตงกวาสลับกับข้าวโพด เนื่องจากแตงกวาเป็นพืชที่ต้องใช้เวลาในการดูแลทุกวัน ส่วนปลูกข้าวโพดเป็นพืชทุ่นแรง ไม่ต้องดูแลมาก พอมีเวลาได้พักเหนื่อย เท่ากับการทำหนักผ่อนเบาเดือนเว้นเดือน        

           วิธีการปลูกแตงกวา สำหรับการปลูกแตงกวาของที่สวนจะเป็นไปอย่างเรียบง่าย เนื่องจากสภาพพื้นดินของที่นี่มีความอุดมสมบูรณ์เหมาะกับการเพาะปลูกอยู่แล้ว เพียงแค่ไถพรวนตากดินทิ้งไว้ประมาณ 7 วัน จากนั้นไถยกร่องคลุมแปลง หากเป็นช่วงอากาศร้อนคลุมด้วยผ้าพลาสติก ส่วนฤดูอื่นๆ จะใช้ฟางคลุม ปลูกในระยะห่างระหว่างต้น 25 เซนติเมตร โดยก่อนหยอดเมล็ดลงหลุมปลูก จะทำการคลุกเมล็ดด้วยเชื้อราไตรโคเดอร์มา เพื่อป้องกันเชื้อราและโรคพืช

             การบำรุงรดน้ำ-ใส่ปุ๋ย เป็นระบบน้ำหยด เปิดรดทุกเย็นวันละครึ่งชั่วโมง ส่วนปุ๋ยบำรุงจะมีถังสำหรับใส่ปุ๋ย มีวาล์วเปิด-ปิด การให้ปุ๋ยจะให้ช่วงเย็นหลังจากการให้น้ำและในช่วงก่อนเก็บผลผลิตจะให้ปุ๋ยยูเรีย 46-0-0 สัปดาห์ละครั้ง จากนั้นเมื่อเริ่มเก็บผลผลิตแล้วจะเปลี่ยนเป็นปุ๋ยหมักสูตรที่ทำเอง 3 วันครั้ง และเมื่อเก็บผลผลิตได้ประมาณครึ่งเดือนจะกลับมาใส่ปุ๋ยยูเรีย 46-0-0 อีกครั้ง แล้วใส่จุลินทรีย์สังเคราะห์แสง 3 วันครั้ง จนถึงมีดสุดท้าย

              เพิ่มผลผลิตด้วยฮอร์โมนไข่ จะเริ่มฉีดพ่นฮอร์โมนไข่หลังจากที่แตงกวาเริ่มออกตาดอกได้ประมาณสัปดาห์ที่ 3 กับช่วงที่แตงกวาให้ลูกเยอะที่สุด โดยในแต่ละช่วงจะฉีดพ่นฮอร์โมนไข่ 2 ครั้ง ระยะห่างแต่ละครั้ง คือ 3 วัน ซึ่งช่วงระยะเวลาที่เหมาะสมในการฉีดพ่นคือช่วงเช้าและเย็น แล้วแต่ว่าแต่ละสวนจะสะดวกฉีดตอนไหน

              ปริมาณผลผลิต โดยปกติแตงกวาทั่วไปจะเก็บผลผลิตได้ประมาณ 20-22 มีด แต่ของที่สวนจะเก็บได้ถึง 30 มีด สาเหตุส่วนหนึ่งมาจากการปลูกอย่างเข้าใจธรรมชาติของแตงกวา โดยปริมาณผลผลิตที่เก็บได้ในช่วงปกติเฉลี่ยอยู่ที่ 200-300 กิโลกรัม หากเป็นช่วงพีคเก็บได้มากถึงวันละประมาณ 400 กิโลกรัม                   

               ราคาในแต่วันจะไม่เท่ากัน โดยทั่วไปแล้วที่สวนจะกรอกใส่ถุง ถุงละ 10 กิโลกรัม ขายในราคาถุงละ 100 บาท เฉลี่ยรายได้ต่อวันประมาณ 2,000-3,000 บาท เฉพาะรายได้จากแตงกวายังไม่รวมกับพืชผักผสมผสานในสวนชนิดอื่นๆ เมื่อหักต้นทุนค่าน้ำมัน ค่าปุ๋ย ค่าถุงกรอกแตง เฉลี่ยประมาณ 10 เปอร์เซ็นต์ ที่เหลือคือกำไร นับเป็นรายได้ที่น่าพึงพอใจเป็นอย่างมาก ด้วยอายุที่ยังน้อยแต่สามารถหารายได้เยอะขนาดนี้

              หากท่านใดสนใจ สอบถามรายละเอียดเทคนิคการปลูกแตงกวาเพิ่มเติม สามารถสอบถามได้ที่เบอร์โทร. 064-658-6151 หรือติดต่อได้ที่เพจเฟซบุ๊ก : สวนบ้านวังปูเป้ ชัยภูมิ

ขอบคุณรูปภาพ : https://www.facebook.com/Pupekanokwanmee

สนใจขอบทความฉบับเต็มได้ที่: http://opac.library.mju.ac.th/opac2/BibDetail.aspx?bibno=362054

หากพบปัญหาหรือต้องการข้อมูลเพิ่มเติม สามารถติดต่อได้ที่
เคาน์เตอร์ One Stop Service ชั้น 1
โทร 053-873510 ; 053-873511

Facebook MJU Library