หลายคนที่ชื่นชอบการดื่มน้ำอัดลมคงสงสัยว่าการดื่มแบบมีน้ำตาลและแบบไม่มีน้ำตาล หรือ ZERO นั้นจะทำให้ฟันผุ และฟันสึกเหมือนๆ กันหรือไม่ ซึ่งปฏิเสธไม่ได้ว่าบางคนดื่มกันชนิดที่ว่าแทนน้ำเปล่าเลยทีเดียว ด้วยความห่วงใยจาก ผศ.ดร.ทพญ.ดุลยพร ตราชูธรรม อาจารย์ประจำหลักสูตรปริญญาโท สาขาพิษวิทยาและโภชนาการเพื่ออาหารปลอดภัย สถาบันโภชนาการ มหาวิทยาลัยมหิดล จึงได้อธิบายถึงความแตกต่างของน้ำอัดลมทั้ง 2 ประเภท พร้อมแนะนำวิธีการดื่มที่ถูกวิธีมาฝาก
ความแตกต่างของน้ำอัดลมแบบมีน้ำตาล และแบบ Zero
สำหรับความแตกต่างของทั้งน้ำอัดลมแบบมีน้ำตาล และแบบ ZERO คือ น้ำอัดอมแบบมีน้ำตาล แบคทีเรียในช่องปากสามารถย่อยน้ำตาลให้เป็นกรดได้ จึงอาจทำให้เกิดฟันผุ ส่วนน้ำอัดลมแบบไม่มีน้ำตาล หรือ ZERO จะเป็นสารให้ความหวานแทน ดังนั้นแบคทีเรียในช่องปากจึงไม่สามารถย่อยได้ หมายความว่าไม่ทำให้เกิดฟันผุใดๆ แต่หากดื่มต่อเนื่อง อาจเกิดฟันสึกกร่อนได้ ซึ่งการที่ฟันของเราสึกกร่อนมากๆ จะทำให้รูปร่างของฟันเปลี่ยนแปลงไป บางคนอาจเกิดการเสียวฟัน ประสิทธิภาพในการบดเคี้ยวลดลง แต่ทั้งนี้ก็มีวิธีการดื่มที่ไม่ทำให้ฟันสึกอยู่ด้วย โดยสามารถปฏิบัติตามได้ ดังนี้
– ดื่มพร้อมมื้ออาหาร : การเคี้ยวจะไปกระตุ้นน้ำลายออกมา ช่วยลดกรดและการสลายของฟันได้เป็นอย่างดี
– ใช้หลอดดูดแทนการดื่มจากแก้ว หรือขวดโดยตรง : เพื่อลดโอกาสที่น้ำอัดลมจะสัมผัสกับฟันโดยตรง
– หลังดื่มน้ำอัดลมไม่ควรแปรงฟันทันที : โดยเราควรทิ้งเวลาไว้อย่างน้อย 4 นาที เพื่อไม่ให้ขนของแปรงถูกับฟันจนอาจเกิดการสึกขึ้นได้
– หลังดื่มน้ำอัดลมให้อมน้ำเปล่า หรือน้ำผสมเบกกิ้งโซดา : โดยผสมเบกกิ้งโซดา ½ ช้อนชา ต่อน้ำ 1 แก้ว จะทำให้มีฤทธิ์เป็นด่าง ซึ่งช่วยลดกรดในช่องปากได้
– หลังดื่มน้ำอัดลมให้ใช้ยาสีฟันผสมฟลูออไรด์เคลือบฟัน : เนื่องจากฟลูออไรด์ช่วยเพิ่มแร่ธาตุกลับคืนสู่ผิวฟัน ลดอาการฟันสึกได้
จริงอยู่ที่น้ำอัดลมแบบไม่มีน้ำตาล หรือ ZERO จะไม่ทำให้ฟันผุ แต่ถึงกระนั้นก็ทำให้ฟันของคุณสึกกร่อนได้ การปฏิบัติตามคำแนะนำทันตแพทย์จึงเป็นสิ่งที่ดีที่สุด ทั้งนี้ ในผู้ที่ชื่นชอบการดื่มน้ำอัดลมแม้ว่าจะเป็นแบบไม่มีน้ำตาลก็ไม่ควรดื่มทั้งวันทุกวัน เพราะอาจเกิดผลกระทบต่อร่างกายได้ในอนาคต
ที่มา : Mahidol University