The Invisible Man: มนุษย์ล่องหน
ผู้กำกับภาพยนตร์: Leigh Whannell
นักแสดง : Elisabeth Moss, Oliver Jackson-Cohen, Aldis Hodge, Storm Reid, Harriet Dyer
ประเภท: Horror/Thriller
ความยาว: 124 นาที
สตูดิโอ :Blumhouse Productions, Goalpost Pictures, Nervous Tick
The Invisible Man เป็นหนังที่นำพล็อตเก่ามาแต่งเติมใหม่ สอดคล้องกับกระแส Sexual assults ในสังคมชายเป็นใหญ่ ได้อย่างทันสมัย ในขณะเดียวกัน หนังก็ยังคงความลุ้นระทึก ตื่นเต้น ระทึกขวัญ และความไม่น่าไว้วางใจโปรยไว้ตั้งแต่ต้นจนจบอย่างเหนือชั้น
หนังเปิดฉากที่ Cecilia Kass กำลังหนีออกจากบ้านสุดหรูริมทะเลของ Adrian Griffin สามีจอมบงการของเธอ ซึ่งเป็นผู้นำโลกด้านทัศนศาสตร์ (optics) ที่เก่งและรวยมาก
โดยบ้านหลังนี้เป็นบ้านดีไซน์โมเดิร์น มินิมอล เป็นผนังกระจก แสดงถึงความไม่ปลอดภัย และความรู้สึกของการถูกจ้องมองอยู่ตลอดเวลา โดยในขณะเดียวกัน ในบ้านก็ยังมีการติดตั้งกล้องวงจรปิดจำนวนมาก จนทำให้ Cecilia รู้สึกไม่เป็นส่วนตัวและถูกควบคุมโดยสามีตลอด 24 ชั่วโมง
หลังจากที่ Cecilia หลบหนีมาได้โดยการช่วยเหลือของ Emily น้องสาวของเธอ เธอก็มาอยู่กับ James เพื่อนเก่าของเธอที่เป็นตำรวจ และเป็นคุณพ่อเลี้ยงเดี่ยวของเด็กสาว Sydney ซึ่งถึงจะหลังเล็ก ไม่หรูหรา และไม่สมบูรณ์แบบ แต่ก็เต็มไปด้วยความรัก ความอบอุ่น และรู้สึกปลอดภัยกว่าการอยู่บ้านหลังใหญ่ที่มีระบบนิรภัยไฮเทคครบครัน
ไม่นานหลังจากนั้น Cecilia ก็ได้ข่าวว่า Adrian ตายแล้ว ซึ่งทำให้เธอรู้สึกปลอดภัยขึ้นและเป็นอิสระอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนตั้งแต่แต่งงาน และ Tom ทนายความและน้องชายของ Adrian มาเปิดพินัยกรรม แจ้งสิทธิในมรดกที่ Cecilia จะได้รับ
ความสุขและอิสรภาพนั้นอยู่กับเธอไม่ทันข้ามคืนดี จู่ ๆ เธอก็กลับมารู้สึกว่าถูกคุกคามและติดตามโดย Adrian อีกครั้ง ถึงแม้เธอจะไม่เห็นกับตา แต่เธอก็รู้สึกได้อย่างแรงกล้า และความชัดเจนนั้นก็รุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ จนเธอเชื่อว่าอดีตสามีของเธอยังอยู่กับเธอจริง ๆ แต่
ไม่ว่าจะพูดยังไง คนรอบข้าง ซึ่งไม่เห็นกับตาและไม่โดนกับตัว ก็ไม่เชื่อว่าเธอถูกกระทำโดยสิ่งที่มองไม่เห็นที่ว่านั้น
โดยช่วงแรก หนังทำให้เรายังไม่มั่นใจ เช่นเดียวกับเพื่อนและน้องสาวของนางเอกที่ไม่มั่นใจ ว่า Cecilia คิดไปเองหรือหลอนไปเอง เป็นอาการทางจิตหรือฤทธิ์ของยากล่อมประสาทที่เธอกินหรือเปล่า หรือว่าสิ่งที่ Cecilia กำลังเจอ เป็นวิญญาณหรือสิ่งที่ supernatural ของ Adrian จริง ๆ หรือเปล่า ซึ่งถึงแม้คนดูอย่างเรา ๆ จะทราบกันอยู่แล้วว่า ความจริงคืออะไร แต่หนังก็ยังสามารถสร้างบรรยากาศและอารมณ์ร่วมได้ดีมาก จนเรารู้สึกกลัวและรู้สึกเหมือนกำลังถูกคุกคามเช่นเดียวกับที่ Cecilia ประสบ
แน่นอนว่า หนังยังมีหลายจุดที่ไม่เมคเซนส์ แต่ก็ยังพอรับได้และเข้าใจได้ อีกทั้งหนังก็ไม่ได้ให้ความสำคัญกับผู้กระทำว่า ทำไมเขาทำแบบนี้ ทำไมหล่อรวยเลือกได้อย่างเขาจึงมาแต่งงานกับผู้หญิงธรรมดา ๆ คนนี้ จนไปถึงเขาสร้างเทคโนโลยีล่องหนสุดล้ำนี้ขึ้นมาได้อย่างไร แล้วสร้างขึ้นมาเพื่ออะไร (เพื่อคุกคามเมียตัวเองเท่านั้นเนี่ยนะ?)
เพราะสุดท้ายแล้ว เรื่องเหล่านั้นมันไม่ได้สลักสำคัญอะไรเลย เพราะต่อให้เขาอัจฉริยะแค่ไหน หรือต่อให้เขารักผู้หญิงคนนี้จริง ๆ แต่ถ้าเขาใช้ความรุนแรง กดขี่ข่มเหง หรือละเมิดสิทธิเสรีภาพส่วนบุคคลของคนในครอบครัว ทุกสิ่งที่เขามีหรือที่เขาเป็นมันก็ไม่สำคัญ ไม่ควรค่าแก่การเชิดชูหรือจดจำ และไม่มีความดีเลิศด้านไหนมาหักล้างความชั่วร้ายที่เขากระทำลงไปได้
ประเด็นสำคัญหรือหัวใจของเรื่องนี้คือเหยื่อหรือผู้หญิงผู้ถูกกระทำ ซึ่งการแสดงของ Elisabeth Moss มันบอกมาหมดเลยทางอวัจนภาษาว่าตัวละครของเธอเคยโดนอะไรมาบ้างหรือเป็นทุกข์ขนาดไหนกับชีวิตแต่งงาน โดยที่หนังไม่ต้องให้ตัวละครอธิบายเล่าย้อนความ หรือฉายแฟลชแบ็คถึงเหตุการณ์ก่อนหน้าอย่างที่หนังหรือละครไทยชอบทำแต่อย่างใด
หนังมีการใช้บันไดปีนไต่หรือการก้าวข้ามผ่านที่สูงชันอยู่เรื่อย ๆ เช่น ทันทีที่ Cecilia ได้เงินมรดกส่วนหนึ่ง เธอไปซื้อบันไดใหม่สำหรับทาสีให้ James ซึ่งชอบทำบ้าน และให้ Sydney ปีนขึ้นบันไดนั้นเพื่อไปหยิบซองที่อยู่บนเชลฟ์ ในซองคือ Cecilia เปิดบัญชีเงินทุนการศึกษาให้หลานสาวสุดที่รักใช้เป็นค่าเทอมและค่าใช้จ่ายราคาแพงสำหรับการเข้าเรียนโรงเรียนแฟชั่นตามความฝัน
หรือฉากสำคัญฉากหนึ่งที่หลอนและชวนสะดุ้งติดหูติดตาเราจนถึงทุกวันนี้คือฉากที่ Cecilia ปีนขึ้นไปห้องใต้หลังคา และพบกับสิ่งของ 3-4 สิ่งที่ The Invisible Man เอาขึ้นไปวางซ่อนไว้ สิ่งเหล่านั้นล้วนเป็นสิ่งสำคัญที่สามารถนำไปสู่อิสรภาพ ความปลอดภัย หรือความมั่นคงในชีวิตได้ เช่น กุญแจบ้าน พอร์ตฯ ผลงานทางสถาปัตย์ที่ใช้ยื่นสมัครงานได้ จนไปถึงอาวุธอย่างมีด
รวมถึงฉากปิดสุดท้ายของหนัง ที่ Cecilia สามารถกำจัด The Invisible Man นั้นได้แล้วจริง ๆ เธอก้าวขึ้นบันไดอย่างสตรองและสง่าผ่าเผย หนังตัดจบที่ตรงนั้น… ตรงที่เธอขึ้นมาสูดอากาศรับอิสรภาพ ณ จุดสูงสุดของบันไดนั้น… เธอหลุดพ้นแล้วจริง ๆ
cr.kwanmanie.com