เข้าสู้หน้าทุเรียนทีไร สาวกคนรักราชาผลไม้เป็นต้องน้ำลายสอกับกลิ่นหอม ๆ ของทุเรียน แต่พอนึกถึงตัวเลขแคลอรี่ในทุเรียนแล้ว ทำเอาหลายคนต้องแตะเบรก ห้ามใจตัวเองแทบไม่ทัน เพราะถ้าเผลอทานราชาผลไม้ไทยชนิดนี้มากเกินไปล่ะก็ ได้ความอ้วนแถมกลับมาด้วยชัวร์ ๆ
แต่อย่างไรก็ตามไม่ต้องกังวน เพราะถ้าเราทานอย่างระมัดระวัง นอกจากจะได้ฟินกับรสชาติของทุเรียนแบบไม่กลัวอ้วนแล้ว ยังได้สุขภาพดีมาด้วยนะ ตามมาเลย !!
เราอาจไม่เคยรู้ประโยชน์ของทุเรียนเลย เพราะกลัวแต่ว่าทานแล้วจะอ้วน แต่จริง ๆ แล้ว ทุเรียนมีประโยชน์ไม่ใช่น้อยนะคะ โดยเป็นผลไม้ที่มีเบต้า-แคโรทีนสูง จึงช่วยเรื่องบำรุงสายตา ป้องกันการเกิดโรคต้อกระจกชะลอการเสื่อมของกระจกในผู้สูงอายุได้ และสารนี้ก็ยังช่วยบำรุงผิวพรรณได้ด้วย ขณะเดียวกัน ทุเรียนก็มีเส้นใยอาหารสูง คือ ประมาณ 3-5% (แล้วแต่สายพันธุ์) กากใยในเนื้อจึงเป็นยาระบาย ช่วยขับล้างลำไส้
นอกจากนี้ ทุเรียนยังมีประโยชน์ในด้านการฆ่าเชื้อ เพราะกำมะถันในเนื้อทุเรียนเปรียบเสมือนยาปฏิชีวนะอ่อน ๆ แก้โรคผิวหนัง ทำให้ฝี-หนองแห้ง มีฤทธิ์ขับพยาธิ เปลือกลูกที่มีรสฝาดเฝื่อน ยังช่วยสมานแผล แก้น้ำเหลืองเสีย พุพอง แก้ฝี ตาน ซาง คุมธาตุ แก้คางทูม
อย่างที่ทราบกันดีว่า ทุเรียนเป็นผลไม้ที่มีคาร์โบไฮเดรตและไขมันไม่ใช่น้อย ๆ ถ้าเผลอทานไม่ยั้ง มั่นใจได้ว่าความอ้วนมาเยือนแน่นอน เราจึงย้ำให้ทานทุเรียนอย่างเหมาะสมด้วยค่ะ โดยข้อมูลจากกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ระบุว่า ทุเรียน 1 เม็ดขนาดกลาง (40 กรัม) ให้น้ำตาล 18 กรัม ให้พลังงานประมาณ 60 กิโลแคลอรี เทียบได้กับข้าวสวยเกือบทัพพี (ข้าว 1 ทัพพี = 80 กิโลแคลอรี) ดังนั้น หากทานครั้งละ 3 เม็ด จะรับพลังงานไปถึง 180 กิโลแคลอรี หรือกินข้าว 2 ทัพพีกว่า ๆ เลย แต่ถ้าเผลอทานครั้งละ 4-6 เม็ด ก็รับพลังงานไปเกือบ ๆ 400 กิโลแคลอรี เทียบเท่ากับดื่มน้ำอัดลม 2 กระป๋อง หรือทานข้าวถึง 5 ทัพพี !
นอกจากนี้ ผู้ป่วยโรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง และหลอดเลือดหัวใจตีบ ก็ควรระวัง เพราะทุเรียนมีแป้งและไขมันสูง หากกินมากไป อาการอาจจะทรุดได้ แนะนำให้กินไม่เกิน 1 เม็ดเล็กต่อวัน และไม่ควรกินต่อเนื่องทุกวัน