ปีใหม่นี้เป้าหมายของใครหลายคนก็คงจะหนีไม่พ้นการลดความอ้วน วันนี้เรามาลองเริ่มจากวิธีง่ายๆกัน
1. จดบันทึก
ถ้าจริงจังที่จะลดน้ำหนัก ให้เขียนบันทึกอาหารที่ได้รับประทานในแต่ละวัน อารมณ์ในขณะรับประทาน และถ้าเป็นไปได้ ให้จดบันทึกด้วยว่าวันนั้นออกกำลังกาย หรือเคลื่อนไหวเพิ่มขึ้นหรือไม่ เมื่อมองย้อนกลับไป อาจจะมองเห็น “อะไรบางอย่าง” ที่มองข้ามไป “นี่เราได้กินอะไร เข้าไปอีกแล้วหรือนี่ ตัดแคลอรี่ตรงนี้ออกไปได้ไหม”
การบันทึก เป็นเครื่องมือที่ช่วยในการลดน้ำหนักที่ทรงพลังมาก ให้เริ่มจดบันทึกอาหารที่คุณรับประทาน ในแต่ละวันอย่างน้อยวันละครั้ง
2. การออกกำลังกาย
ให้เคลื่อนไหวเพิ่มมากขึ้น การออกกำลังกายช่วยลดปริมาณอาหารที่รับประทานและลดความหิว แนะนำให้การออกกำลังกาย “40 นาที 4 วันต่อสัปดาห์” เพียงแค่ 40 นาทีเท่านั้น ก็เพียงพอแล้ว
3. รับประทานแคลเซียมให้มากขึ้น
การรับประทานอาหารที่มีแคลเซียมให้มากขึ้นจะช่วยให้ลดน้ำหนักได้เร็วขึ้น ช่วยทำให้กระดูกแข็งแรง และป้องกันภาวะกระดูกพรุน แหล่งของแคลเซียมมีอยู่ทั่วไป เช่น ปลาตัวเล็กที่รับประทานได้ทั้งกระดูก กุ้งแห้ง หรือผลิตภัณฑ์ที่มาจากนม เช่น โยเกิร์ต และจะดีถ้าเลือกนมที่มีไขมันต่ำด้วย
4. โปรตีนในอาหารทุกๆมื้อ
มีการวิจัยอยู่มากมาย ว่าการรับประทานโปรตีนจะช่วยคงสภาพของกล้ามเนื้อ และช่วยลดปริมาณของไขมันในระหว่างที่ลดน้ำหนัก นั่นเป็นเพราะว่า ลิวซีนซึ่งเป็นกรดอะมิโนที่ร่างกายสังเคราะห์ขึ้นเองไม่ได้ ต้องได้รับจากอาหารจะช่วยคงสภาพของกล้ามเนื้อในระหว่างที่ลดน้ำหนัก และการคงสภาพของกล้ามเนื้อช่วยในการเผาผลาญพลังงาน
5. รับประทานอาหารเช้า
สามารถลดน้ำหนักได้เพียงแค่รับประทานอาหารเช้าเท่านั้น ความจริง การศึกษาหลายชิ้นได้แสดงให้เห็นว่า ผู้ที่อดอาหารเช้าทำให้ลดน้ำหนักได้ยากกว่า ทำไม? นั่นเป็นเพราะว่าการรับประทานอาหารเช้านั้นทำให้คงระดับของฮอร์โมนที่ช่วยเร่งการเผาผลาญ
6. พยายามอย่างดอาหารเป็นระยะเวลา 4-5 ชั่วโมง
การอดอาหารทำให้หิว และบั่นทอนพลังใจ เราสู้มันไม่ได้หรอก แนะนำให้รับประทานอาหารอย่างน้อย 3 มื้อต่อวัน การรับประทานอาหารถี่ๆช่วยให้ควบคุมความหิวได้
7. ค่อยเป็นค่อยไป
โดยปกติแล้วการลดน้ำหนักจะสำเร็จได้มากกว่าหากทำอย่าง “ค่อยเป็นค่อยไป” ประมาณ 0.5 กิโลกรัมต่อสัปดาห์ ซึ่งการลดน้ำหนักอย่างค่อยเป็นค่อยไป น้ำหนักที่ลดได้ก็คือไขมัน ไม่ใช่น้ำ ไม่ใช่กล้ามเนื้อ
8. หาคู่หูลดน้ำหนัก
คู่หูลดน้ำหนักจะช่วยเป็นกำลังใจ และจะช่วยให้คงพฤติกรรมในการรับประทานอาหารและการออกกำลังกาย ให้หาคนที่มีเป้าหมายเช่นเดียวกัน หลังจากนั้นให้ช่วยหาพฤติกรรมที่ทำให้รับประทานอาหารมากเกินไป และออกกำลังกายน้อยเกินไปของทั้งสองคน และช่วยกันคิดว่าจะเปลี่ยนพฤติกรรมได้อย่างไร
9. อาหารสีรุ้ง
อาหารสีรุ้งหมายถึงผักและผลไม้ แคลอรี่ต่ำ และไม่มีไขมัน อีกทั้งประกอบด้วยใยอาหาร วิตามินซี วิตามินเอ และวิตามินเค กรดโฟลิก โปแตสเซียม ยิ่งอาหารที่รับประทานมีสีรุ้งมากเท่าไหร่ ยิ่งส่งผลดีต่อสุขภาพมากขึ้นเท่านั้น นอกจากนี้ยังช่วยป้องกันมะเร็งลำไส้ใหญ่ โรคหัวใจ และป้องกันเบาหวานอีกด้วย ข้าวกล้อง และธัญพืช มีใยอาหาร จะถูกย่อยและถูกดูดซึมได้ช้ากว่า สะสมเป็นไขมันได้น้อยกว่า ดังนั้นแนะนำให้รับประทานข้าวกล้องหรือข้าวซ้อมมื้อ
10.ให้รางวัลกับตัวเอง
ถ้าทำตามและถึงเป้าหมาย เช่น ลดน้ำหนักได้ 5 กิโลกรัม ก็ควรให้รางวัลกับตนเอง มีการศึกษาว่าการให้รางวัลกับตนเองจะช่วยให้เกาะติดกับโปรแกรมได้นานกว่า เพียงแต่ “อย่าใช้อาหารเป็นรางวัล” อาจให้รางวัลกับตนเองด้วยการไปดูหนัง หรือไปเที่ยวพักผ่อน
Cr. sanook