ในปี 2026 โลกกำลังจะก้าวเข้าสู่ยุคใหม่ที่นิยามด้วยการหลอมรวมของแนวคิดที่เคยอยู่ตรงข้ามกัน ความเปลี่ยนแปลงจะผสานเข้ากับความดั้งเดิม, เสรีภาพจะค้นหาจุดสมดุลกับข้อจำกัด, และความลื่นไหลจะบรรจบกับความชัดเจน ตรรกะของสมองซีกซ้ายจะทำงานร่วมกับอารมณ์ของสมองซีกขวาอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ปรากฏการณ์แห่งการผสมผสานนี้ไม่ได้เป็นเพียงแนวคิดเชิงนามธรรม แต่จะสะท้อนออกมาอย่างเป็นรูปธรรมผ่านเทรนด์สีที่จะได้รับความนิยมตลอดทั้งปี สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (องค์การมหาชน) หรือ CEA ได้นำเสนอภาพรวมของอนาคตผ่าน 7 กลุ่มสี ที่จะกลายเป็นแนวทางใหม่และอธิบายภาพของปี 2026 ได้อย่างน่าสนใจและลึกซึ้ง บทความนี้จะพาคุณไปทำความรู้จักกับ 7 เฉดสีแห่งอนาคต เพื่อเตรียมพร้อมเปิดศักราชใหม่อย่างไม่ตกเทรนด์
1. สีชมพูพีชเฉด Peach Powder อ่อนหวานไม่อ่อนไหว ยืนหยัดในความเป็นตัวเอง
ในอดีต สีชมพูพีชมักถูกผูกโยงไว้กับความโรแมนติกและความอ่อนหวานเป็นหลัก อย่างไรก็ตาม ในปี 2026 นิยามของสีชมพูเฉดนี้จะถูกขยับขยายให้กว้างไกลและซับซ้อนยิ่งขึ้น สีชมพูพีชเฉด Peach Powder จะกลายเป็นสัญลักษณ์ของการสร้างกฎเกณฑ์ใหม่ภายใต้วัฒนธรรมของตนเอง มันไม่ใช่แค่สีที่แสดงถึงความนุ่มนวล แต่เป็นสีที่ขับเน้นภาพของผู้หญิงยุคใหม่ที่กล้าหาญและพร้อมจะยืนหยัดในความเป็นตัวเอง
สํานักเทรนด์ชื่อดังอย่าง NellyRodi ได้จัดให้สีชมพูในลักษณะนี้เป็นตัวแทนของแนวคิดเรื่อง ความซุกซน (Mischief) ซึ่งบ่งบอกถึงจิตวิญญาณที่เปี่ยมด้วยความสนุกสนาน ไม่ยอมจำนนต่อกรอบเดิมๆ ขณะเดียวกัน ชื่อเรียกอีกอย่างหนึ่งของเฉดสีนี้คือ Tender Brush ก็ยิ่งตอกย้ำภาพลักษณ์ดังกล่าว สะท้อนถึงความกล้าในการแสดงออกของผู้หญิงที่มีสิทธิ์ในร่างกายของตนเองอย่างเต็มขั้น สีชมพูเฉดพีชจึงเป็นการผสมผสานที่ลงตัวระหว่างความขัดแย้ง มันคือสีที่สะท้อนทั้งความนุ่มนวล, ความละเอียดอ่อน, และความบอบบาง แต่ในขณะเดียวกันก็แฝงนัยที่ซับซ้อนซึ่งเกิดจากกระบวนการคิดไตร่ตรองมาเป็นอย่างดี มันคือสีของผู้หญิงที่อ่อนหวานแต่ไม่อ่อนไหว พร้อมที่จะท้าทายขนบธรรมเนียมด้วยรอยยิ้มและความมั่นใจ
Photo By Badrumstrender 2023; Tinte rosa kakel, Höganäs
Photo By Lavender Peach Soda
Photo By iittala Teema Powder Salad Plate
Photo By Got Myself Into A Jam-Balaya
Photo By Peach lip balm poster design.
2. สีฟ้าอมเทาเฉด Clear Sky เมื่อนวัตกรรมพบธรรมชาติ ทุกอย่างก็สามารถเป็นไปได้
สีฟ้าอมเทาเฉด Clear Sky หรือที่หลายสํานักเทรนด์เรียกว่า Blue Aura คือกลุ่มสีพาสเทลที่มอบความรู้สึกสบายตาอย่างที่สุด ความโดดเด่นของสีเฉดนี้คือความสามารถในการปรับใช้ได้อย่างลื่นไหล ไม่ว่าจะเป็นเพศใด วัยใด หรือฤดูกาลไหนก็ตาม แรงบันดาลใจหลักของสีฟ้าเฉดนี้มาจากการผสมผสานระหว่างแสงและเงาในธรรมชาติ ซึ่งทำให้มันสามารถฉาบเคลือบลงบนวัสดุต่างๆ เพื่อเสริมสร้างมิติและความเป็นประกายได้อย่างน่าทึ่ง ผลลัพธ์ที่ได้คือความรู้สึกที่ผ่อนคลาย, อบอุ่น และในขณะเดียวกันก็ยังคงไว้ซึ่งความล้ำสมัย
เฉดสีนี้ยังถูกมองว่าเป็นหนึ่งในกลุ่มสีของ “นักสํารวจ” มันเป็นตัวแทนของสีท้องฟ้าที่มนุษย์เฝ้ามองและศึกษามาตลอดประวัติศาสตร์ เพื่อเติมเต็มจิตใจและทำความเข้าใจโลกใบนี้ มันเปรียบเสมือนการ์ดสีแสนวิเศษที่ผู้คนต่างปรารถนาที่จะค้นพบในธรรมชาติ ทว่าในอีกมิติหนึ่ง สีฟ้าอมเทาเฉด Clear Sky ก็สามารถถือกำเนิดขึ้นได้ในห้องทดลองแห่งนวัตกรรมเช่นกัน เมื่อสองวิถีทางที่แตกต่างกันสุดขั้วระหว่างธรรมชาติและเทคโนโลยีมาผสานกันอย่างลงตัว มันจึงสะท้อนให้เห็นถึงความเป็นไปได้ที่ไม่มีที่สิ้นสุด ซึ่งเป็นหนึ่งในหัวใจหลักของปี 2026 นั่นเอง

Photo By color-name
3. สีม่วงดอกฟูเชียเรด Fuchsia Red สีแห่งจินตนาการ ที่ช่วยผสานโลกจริงและเสมือน
สีม่วงยังคงยืนหยัดในฐานะตัวแทนของโลกดิจิทัลอย่างต่อเนื่อง แต่สำหรับปี 2026 สีม่วงดอกฟูเชียเรด Fuchsia Red จะยกระดับความโดดเด่นขึ้นไปอีกขั้นในฐานะสีม่วงนีออนที่สดใสและเปี่ยมด้วยพลัง สีเฉดนี้คือภาพสะท้อนของความเคลื่อนไหว (Movement) และความตื่นเต้นที่เราจะได้สัมผัสในโลกดิจิทัลที่พัฒนาไปอย่างไม่หยุดยั้ง มันไม่ใช่แค่สีที่สวยงาม แต่ยังสะท้อนทัศนคติที่ก้าวหน้าและความกล้าที่จะท้าทายต่อขนบเดิมๆ ท่ามกลางโลกที่เต็มไปด้วยความวุ่นวาย ความแปรปรวน และวิกฤตรอบด้าน
นิตยสาร “View The Forecast Issue Spring/Summer 2026” ได้ให้ความเห็นเพิ่มเติมว่า สีนี้จัดอยู่ในกลุ่มสี Out of Mind ซึ่งสะท้อนแนวคิดที่ว่า “จินตนาการคือความสามารถพิเศษของมนุษย์” การใช้สีเฉดนี้จึงเปรียบเสมือนการจุดประกายความคิดสร้างสรรค์ในรูปแบบเหนือจริง (Surreal) และท้าทายการรับรู้ของเราที่มีต่อทั้งโลกกายภาพและโลกเสมือนจริง Fuchsia Red นับเป็นสีที่ทำหน้าที่เจือเส้นแบ่งระหว่างโลกจริงและโลกออนไลน์ได้อย่างเหนือชั้น มันช่วยให้มนุษย์สามารถหลีกหนีจากความเป็นจริงอันเป็นบ่อเกิดของความวิตกกังวล และเข้าไปสำรวจพื้นที่แห่งจินตนาการได้อย่างอิสระ
Photo By Neon Pink
Photo Pin by alycrea20
4. สีส้มสดใสเฉด Tangelo ขุมพลังความสุข ที่ซ่อนวัฒนธรรมและนวัตกรรมสุดทันสมัย
ในประวัติศาสตร์ศิลปะ เมื่อสังคมต้องเผชิญกับยุคแห่งความโกลาหล ศิลปินมักจะได้รับแรงบันดาลใจจากการหยิบเอาเอกลักษณ์ของวัฒนธรรมที่หลากหลายทั่วโลกมาผสมผสานกัน ในยุคสมัยเหล่านั้น สีส้มอันเจิดจ้าได้กลายเป็นสีค่ากลางที่ปรากฏอยู่ในแทบทุกวัฒนธรรม ด้วยเหตุนี้ นักออกแบบจำนวนมากจึงเลือกใช้สีส้มในงานออกแบบที่เกี่ยวข้องกับด้านจิตวิญญาณ, การเสริมสัมผัสแห่งความหรูหรา และการโอบรับความทันสมัยที่เข้ามาท่ามกลางซากความเสียหายจากสงคราม แม้ในยุคปัจจุบัน ความกดดันต่างๆ อาจไม่สามารถมองเห็นได้ชัดเจนเท่าในอดีต แต่ก็สร้างความตึงเครียดให้ผู้คนไม่น้อยไปกว่ากัน ดังนั้น การค้นหาแรงบันดาลใจจากวัฒนธรรมท้องถิ่นจึงกลายเป็นขุมทรัพย์แห่งความสุข และสีส้มก็คือส่วนหนึ่งที่เชื่อมโยงผู้คนเข้ากับความสุขนั้น
สำหรับปี 2026 สีส้มเฉด Tangelo ได้กลายเป็นตัวแทนของขุมพลังแห่งความสุข (Powerhouse of Happiness) ที่ทำให้ผู้คนรู้สึกมีพลังและช่วยกระตุ้นแรงบันดาลใจได้อย่างมหาศาล ในขณะเดียวกัน สีส้มที่เข้มขึ้นอีกเฉดก็ได้รับการขนานนามว่าเป็นตัวแทนของ “การบุกเบิกวัฒนธรรมใหม่” สีส้มเป็นสีที่ปลุกจิตวิญญาณของผู้คนในทุกวัฒนธรรมมาอย่างยาวนาน ทั้งในโลกตะวันออกและตะวันตก ยิ่งไปกว่านั้น สีส้มเฉดเข้มสดใสยังเชื่อมโยงไปถึงนวัตกรรมแห่งอนาคต โดยเป็นตัวแทนของสิ่งทอที่ถูกย้อมด้วยสีธรรมชาติแบบเข้มข้น ซึ่งเป็นนวัตกรรมการย้อมสีที่เกิดจากการใช้วัตถุดิบจากขยะอาหารและเส้นใยรีไซเคิล นวัตกรรมนี้จะถูกพบเห็นมากขึ้นในตลาดแฟชั่นฤดูร้อนปี 2026 ซึ่งเป็นการการันตีว่าสีส้มจะยังคงอยู่กับเราทั้งในหน้าประวัติศาสตร์, ปัจจุบัน และอนาคต โดยไม่มีทีท่าว่าจะเลือนหายไป


5. สีเขียวโลกสวยเฉด Vivid Green สนุกสนานได้ทุกช่วงวัย ด้วยนิยามใหม่ที่พาใจกลับไปอดีต
หลังจากที่สีเขียวถูกผูกติดอยู่กับแนวคิดรักษ์โลกมาเป็นเวลาหลายปี ในที่สุดปี 2026 ก็จะมอบนิยามใหม่ให้กับสีเขียวเฉดนี้ สีเขียว Vivid Green จะกลายเป็นตัวแทนของประสบการณ์แห่งวัยเยาว์ ที่จะพาคนทุกช่วงวัยหวนกลับไปคิดถึงความสุขในอดีต มันคือสีแห่งความทรงจำอันสดใสและความสนุกสนานที่ไร้เดียงสา โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อนำไปใช้ในมิติของการตกแต่งและงานสถาปัตยกรรม สีเฉดนี้จะสามารถสร้างบรรยากาศที่ช่วยดึงอารมณ์ความเป็นเด็กและความร่าเริงออกมาได้อย่างน่าอัศจรรย์
นอกเหนือจากมิติของความทรงจำแล้ว สีเขียวยังให้ความหมายถึงการเปลี่ยนผ่านช่วงเวลาของชีวิต มันเป็นสัญลักษณ์ของความสดใหม่และการมองโลกในแง่ดี แนวคิดเบื้องหลังคือ การปรับมุมมองต่ออุปสรรคให้กลายเป็นอารมณ์ขัน ซึ่งเป็นทักษะสำคัญในการใช้ชีวิตท่ามกลางโลกที่เต็มไปด้วยความท้าทาย สีเขียว Vivid Green จึงช่วยให้ผู้คนรู้สึกผ่อนคลายจากความเครียด และสามารถเก็บเกี่ยวความสุขเล็กๆ น้อยๆ ที่เกิดขึ้นในแต่ละวันได้เป็นอย่างดี
Photo By color-name
Photo By Buxus Green Velvet
6. สีน้ำตาลคลาสสิกเฉด Bitter Chocolate เรียบง่าย หรูหรา ให้คุณค่ากับงานคราฟต์
สีน้ำตาลอมแดง หรือเฉด Bitter Chocolate คือสีที่สะท้อนสไตล์วินเทจและความคลาสสิกออกมาได้อย่างมีรสนิยมและสง่างาม สีเฉดนี้ชวนให้เราหวนคิดถึงยุคเรโทรในวันวานอย่างไม่อาจห้ามได้ มันคือสีที่เชื่อมโยงเราไปสู่ความประณีตของช่างศิลป์ ผู้ซึ่งนำภูมิปัญญาท้องถิ่นมาผนวกเข้ากับความชำนาญเฉพาะทาง เพื่อสร้างสรรค์งานคราฟต์ชิ้นเอกที่ทรงคุณค่าสู่สังคมมาแล้วในหลายยุคหลายสมัย
สิ่งที่ทำให้สีน้ำตาลเฉดนี้พิเศษคือความงามที่อยู่เหนือกาลเวลา ผลงานที่ใช้สีนี้สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ซ้ำแล้วซ้ำเล่าโดยไม่ได้ให้ความรู้สึกว่า “เก่า” แต่กลับยิ่งเสริมให้เกิดความรู้สึกหรูหราขึ้นอีกระดับ พลังของความรู้สึกวินเทจภายใต้บรรยากาศสุดเรโทรนี้ ไม่เพียงแต่จะสร้างความหรูหรา (Luxury) เท่านั้น แต่ยังสามารถส่งเสริมให้เกิดแรงบันดาลใจและแนวคิดใหม่ๆ ได้เป็นอย่างดีอีกด้วย มันคือการนำรากฐานอันแข็งแกร่งของอดีตมาต่อยอดเพื่อสร้างสรรค์อนาคต

7. สีเทาเข้มเรียบง่ายเฉด Asphalt อยู่เหนือกาลเวลา สู่ความธรรมดาที่กลมกลืน
เฉดสีเทานับเป็นอีกหนึ่งเฉดสีสุดคลาสสิกที่สามารถตั้งตัวเองให้อยู่เหนือกาลเวลาได้เสมอมา ไม่ว่าจะผ่านไปกี่ยุคกี่สมัย สีเทาก็ยังคงครองใจผู้คนได้อย่างไม่เสื่อมคลาย มันคือสีที่ไม่มีอดีต, ปัจจุบัน หรืออนาคตมาเป็นนิยาม เป็นความทันสมัยที่ให้ความรู้สึกไม่ใหม่แต่ก็ไม่เก่า และไม่เคยทำให้ใครรู้สึกเบื่อ สำหรับปี 2026 สีเทาเข้มอมเขียวที่เรียกว่า Asphalt จะมีความโดดเด่นอยู่ที่ความเรียบง่ายอันทรงพลัง
ในขณะเดียวกัน หากมองไปยังสีเทาเข้มอีกเฉดที่คล้ายกันในชื่อ Shadowy Scales ก็จะให้ความรู้สึกที่ลึกลับและเงียบสงบมากยิ่งขึ้น เสมือนกับความลึกลับของห้วงอวกาศที่มนุษย์ใฝ่ฝันที่จะทำความเข้าใจ และพยายามหาทางเข้าไปใกล้หัวใจของมันอยู่ทุกวัน องค์กร ISPO ยังได้ยกให้เฉดสีเทาเป็นหนึ่งในตัวแทนของพื้นที่กลางแจ้งสำหรับเมือง (Urban Outdoor) ที่สามารถนำไปสู่แรงบันดาลใจด้านสถาปัตยกรรมได้ ตัวอย่างที่ชัดเจนคือตึกปูนเปลือยที่มาพร้อมโครงเหล็กสีเทากลางกรุงโตเกียว ซึ่งกลายเป็นสถาปัตยกรรมที่สามารถกลมกลืนเป็นหนึ่งเดียวกับธรรมชาติได้อย่างน่าทึ่ง เมื่อรวมเข้ากับการออกแบบเพื่อการใช้งานจริง ตึกแห่งนี้จึงมีโครงสร้างที่เป็นดั่งโอเอซิสใจกลางเมืองที่เข้ากับสภาพแวดล้อมโดยรอบ ทั้งยังสามารถทำหน้าที่เป็นสถานที่หลบภัยเพื่อรับมือกับภัยพิบัติได้อีกด้วย สีเทา Asphalt จึงเป็นตัวแทนของความธรรมดาที่สามารถกลมกลืนและสร้างความยั่งยืนได้อย่างแท้จริง



บทสรุป: อนาคตที่สะท้อนผ่านสีสัน
7 กลุ่มสีแห่งปี 2026 ที่นำเสนอโดย CEA ไม่ได้เป็นเพียงการคาดการณ์เทรนด์แฟชั่นหรือการออกแบบเท่านั้น แต่คือภาพสะท้อนที่ลึกซึ้งของสภาวะทางสังคมและวัฒนธรรมที่กำลังจะเกิดขึ้น มันคือการหลอมรวมของสิ่งที่เคยอยู่คนละขั้ว ไม่ว่าจะเป็นนวัตกรรมกับธรรมชาติในสี Clear Sky, โลกจริงกับโลกเสมือนในสี Fuchsia Red, หรือสถาปัตยกรรมกับสิ่งแวดล้อมในสี Asphalt แต่ละเฉดสีล้วนบอกเล่าเรื่องราวของการค้นหาความสมดุล, การสร้างนิยามใหม่ให้แก่สิ่งเดิมๆ และการโอบรับความซับซ้อนของโลกสมัยใหม่
เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับศักราชใหม่ที่กำลังจะมาถึง ทุกคนสามารถติดตามเนื้อหาเทรนด์ที่นำหนึ่งก้าวเสมอแบบเจาะลึกฉบับเต็มได้ในอีบุ๊ก “เจาะเทรนด์โลก 2026” โดย CEA ซึ่งจะเปิดให้ดาวน์โหลดฟรีในเดือนตุลาคมนี้ การทำความเข้าใจเทรนด์สีเหล่านี้จึงไม่ใช่แค่การตามกระแส แต่คือการเตรียมพร้อมที่จะเข้าใจและก้าวเดินไปกับอนาคตที่กำลังรออยู่ข้างหน้า
