กีฬาวิ่ง เป็นอีกหนึ่งกีฬาที่ได้รับความนิยม เพราะง่าย สะดวก มีรองเท้าคู่เดียวก็วิ่งได้แล้ว แต่สำหรับคนเริ่มวิ่งใหม่ ๆ วิ่ง 10 เมตร เหมือนวิ่งเป็นกิโล เหนื่อยแทบขาดใจ แล้วทำไมคนอื่นเขาวิ่งกันได้ยาว ๆ ไกล ๆ ไม่เหนื่อยเหรอ แล้วเขามีเทคนิคอย่างไรที่สามารถวิ่งได้ไกล ๆ และนาน ๆ ลองมาฟังเทคนิคง่าย ๆ ว่าจะวิ่งยังไงให้เหนื่อยน้อยที่สุด และวิ่งได้นานขึ้นของเรากันค่ะ
1. คุณต้องเตรียมร่างกายก่อนวิ่ง ต้องเลือกรองเท้าวิ่งให้เหมาะกับตัวเอง เตรียมตัวเรื่องอาหารการกิน การพักผ่อน ให้เต็มที่นอนให้เต็มที่
2. หาสถานที่สำหรับวิ่ง ควรหาสถานที่ที่มีเพื่อนวิ่งเยอะ ๆ จะได้เป็นแรงบันดาลใจให้อยากวิ่ง เช่น ผู้ชายหล่อ ๆ ผู้หญิงสวย ๆ หรือว่าหาเพื่อนไปวิ่ง จะทำให้มีความอยากวิ่งมากขึ้น
3. ท่าวิ่ง ท่าวิ่งสำคัญมาก จะทำให้เหนื่อยมาก เหนื่อยน้อยท่าวิ่งมีผลต่อความเหนื่อย ถ้าวิ่งถูกวิธี จะทำให้การวิ่งนั้นเหนื่อยน้อยลง
• อย่าก้าวไกลเกินเข่า (Overstride) : เพราะการก้าวที่ไกลเกินไปจะทำให้คุณเสียพลังงานโดยไม่จำเป็น และยังเสี่ยงต่ออาการบาดเจ็บอีกด้วย
• ยืดสำตัวตรงและสูง (Run Vertically) : เพื่อไม่ให้คุณเสียพลังงานไปกับแรงโน้มถ่วงของโลก ที่เปล่าประโยชน์จากการที่ร่างกายคุณหมุนไปตามแรง และไม่แกว่งตัวไปตามการแกว่งแขน
• โน้มตัวไปข้างหน้า (Lean) : คุณต้องโน้มตัวไปข้างหน้าเล็กน้อยเพื่อใช้ประโยชน์จากแรงโน้มถ่วง
• การก้าวย่าง : ควรก้าวถี่ๆ (High Cadence)
• การลงเท้า : ห้ามใช้ส้นเท้าลงเด็ดขาด แต่จงใช้กลางเท้าลง (Flat foot) และไม่ควรทิ้งเท้าลงแบบไม่ยั้ง เพราะจะทำให้เท้าคุณบาดเจ็บได้
• ฟังเสียงการวิ่ง : หากคุณได้ยิ่งเสียงกระแทกดังๆระหว่างวิ่งแปลว่าคุณอาจวิ่งลงส้นเท้า หรือวิ่งไม่ถูกวิธี รีบแก้ไขโดยด่วน
• การแกว่งแขน : ควรแกว่งแขนระดับลำตัว เพื่อเพิ่มอากาศเข้าปอด จะทำให้หายใจสะดวกขึ้น
4. การหายใจ ควรหายใจเข้าทางจมูกและปล่อยลมหายใจออกพร้อมกันทั้งทางจมูกและปากพร้อมกัน โดยสูดหายใจเข้าไปในปอดจนท้องขยาย และบังคับปล่อยลมให้ออกมาด้วยการแขม่วท้อง เพราะการหายใจไม่ถูกวิธีอาจจะทำให้เกิดการจุกเสียดขณะวิ่งได้
5. การเดินสลับวิ่ง การวิ่งไม่ได้หมายถึงต้องวิ่งตลอดระยะทาง เราสามารถเริ่มต้นจากการเดิน แล้วค่อยวิ่งช้า ๆ แล้วค่อยเร่งความเร็ว
6. การลดความเร็ว จากคนที่ปกติวิ่งระยะสั้นแล้ววิ่งเร็ว ให้ลดความเร็วลง 40% เพื่อจะได้เพิ่มระยะทาง และทำให้ลดการเหนื่อยลงด้วย
7. การเริ่มวิ่งใหม่ ๆ ควรจิบน้ำบ่อย ๆ เพื่อไม่ให้ร่างกายขาดน้ำ
8. ควรมีการวอร์มอัพก่อนวิ่งทุกครั้ง เพื่อลดอาการบาดเจ็บ ที่สำคัญหาแรงบันดาลใจในการวิ่ง เช่น จะวิ่งลดน้ำหนัก วิ่งหาแฟน วิ่งเพื่อสุขภาพ หรือไม่ว่า จะวิ่งเพื่ออะไรก็ตาม ควรที่จะมีการซ้อมอย่างสม่ำเสมอ อย่างน้อย 3-4 ครั้งต่อสัปดาห์ ถ้าต้องการเพิ่มความสนุกให้การวิ่งของคุณ หาเพลงที่ชอบมาฟังระหว่างวิ่งก็ไม่ว่ากันค่ะ
