ชื่อบทความเรื่อง : “หญ้าหวานอินทรีย์” พืชสร้างรายได้เสริม ของสาวบัญชี ฟันรายได้ 4 หมื่น/เดือน
ผู้เขียน : ธาวิดา ศิริสัมพันธ์
ชื่อวารสาร : เทคโนโลยีชาวบ้าน ปีที่ 34 ฉบับที่ 770
บรรณานุกรม :
ธาวิดา ศิริสัมพันธ์. (2565). “หญ้าหวานอินทรีย์” พืชสร้างรายได้เสริม ของสาวบัญชี ฟันรายได้ 4 หมื่น/เดือน. เทคโนโลยีชาวบ้าน, 34(770), 69-71.
หญ้าหวาน มีกำเนิดแถบอเมริกาใต้ ใบของต้นหญ้าหวานมีรสหวาน เริ่มเข้าสู่ประเทศไทยเมื่อปี พ.ศ. 2550 และปลูกกันมากในภาคเหนือ โดยเฉพาะที่จังหวัดเชียงใหม่ ลำพูน และเชียงราย หญ้าหวานจึงจัดอยู่ในพืชสมุนไพรอีกชนิดหนึ่ง ความพิเศษของหญ้าหวานคือ ส่วนของใบให้ความหวานมากกว่าน้ำตาลถึง 10-15 เท่า แต่ความหวานนี้ไม่ก่อให้เกิดพลังงานแต่อย่างไร ด้วยความพิเศษของหญ้าหวานนี้ หญ้าหวานจึงเป็นพืชที่ได้รับความสนใจทั้งทางด้านอุตสาหกรรม การแพทย์ ยาสมุนไพร เครื่องดื่ม นำไปสู่การปลูกเป็นพืชสร้างรายได้หลักและเสริมของเกษตรกรหลายจังหวัด
คุณณัฐกานต์ อุตะมะติง หรือ พี่ยุ้ย อยู่ที่ ตำบลแม่สาบ อำเภอสะเมิง จังหวัดเชียงใหม่ สาวบัญชีสานต่องานเกษตรของครอบครัวปลูกและแปรรูปหญ้าหวานอินทรีย์ ตอบรับกระแสคนรักสุขภาพกำลังมาแรง ใช้เวลาว่างจากงานประจำช่วงวันเสาร์-อาทิตย์ในการดูแล ฟันรายได้ 40,000 บาทต่อเดือน ปัจจุบันทำงานประจำเป็นพนักงานการเงินและบัญชี ที่โรงพยาบาลสะเมิง การปลูกและแปรรูปหญ้าหวานถือเป็นอาชีพเสริมที่เข้ามาสานต่อจากที่พ่อแม่ทำไว้ โดยก่อนหน้านี้พ่อกับแม่เริ่มปลูกหญ้าหวานมาเป็นระยะเวลากว่า 10 ปี แต่ทำไม่ต่อเนื่อง ตนเองจึงได้ตัดสินใจเข้ามารับช่วงต่อ และหวังที่จะพัฒนาให้ผลผลิตหญ้าหวานของที่สวนสามารถเก็บเกี่ยวได้อย่างต่อเนื่องทั้งปี และก็ทำได้สำเร็จนับเป็นเวลากว่า 4 ปี ที่ตนเองได้เข้ามาช่วยและพัฒนาทั้งในด้านคุณภาพและการตลาดของหญ้าหวาน จากรุ่นพ่อแม่เคยโดนพ่อค้าคนกลางผูกขาด ในบางครั้งพ่อค้าไม่เข้ามารับซื้อสินค้าตามที่สั่งไว้ผลผลิตที่สวนก็ได้รับความเสียหาย เนื่องจากการเก็บรักษาหญ้าหวานจะอยู่ได้ประมาณ 6 เดือน ถึง 1 ปี แต่เมื่อผ่านระยะ 6 เดือนไปแล้ว สีของใบจะเริ่มเปลี่ยน สีจะเริ่มซีด นำไปขายที่ไหนก็ไม่ได้แล้ว ตนเองจึงได้เข้ามาเปลี่ยนแปลงเน้นทำตลาดออนไลน์เกือบ 100 เปอร์เซ็นต์ ส่งผลให้ผลผลิตหญ้าหวานอบแห้งที่ผลิตได้เดือนละ 200
กิโลกรัม ขายหมดเกลี้ยงทุกเดือน
ปลูกหญ้าหวานอินทรีย์ 3 ไร่ เก็บเกี่ยวผลผลิตได้ตลอดทั้งปี
ปัจจุบันที่ฟาร์มปลูกหญ้าหวานบนพื้นที่ประมาณ 3 ไร่กว่า แบ่งปลูกเป็น 3 แปลง เพื่อหมุนเวียนให้สามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ตลอดทั้งปี จากเมื่อก่อนที่พ่อกับแม่เคยปลูกแบบพึ่งสารเคมี ก็เปลี่ยนมาปลูกและดูแลให้เป็นอินทรีย์แบบ 100 เปอร์เซ็นต์ ให้สอดคล้องกับการตลาดยุคสมัยใหม่ที่คนหันมาให้ความสำคัญกับสุขภาพกันมากขึ้น หญ้าหวานเป็นพืชที่สามารถเก็บได้ตลอดทั้งปี ในช่วงฤดูฝนจะเป็นช่วงที่หญ้าหวานราคาต่ำที่สุด ราคาใบแห้งจะอยู่ที่กิโลกรัมละ 100-150 บาท เนื่องจากผลผลิตออกเยอะ สวนไหนๆ ก็มี ส่วนในช่วงที่หญ้าหวานมีราคาแพงที่สุดคือช่วงฤดูหนาว การเจริญเติบโตของหญ้าหวานจะช้ามาก ทำให้ความต้องการของตลาดมีมาก ราคาจะดีดสูงขึ้นไปขายได้กิโลกรัมละ 600-700 บาท
ซึ่งที่ฟาร์มจะไม่ทำเหมือนกับที่อื่นๆ จะเน้นทำผลผลิตให้มีตลอดทั้งปี ไม่ว่าจะเป็นในช่วงที่ให้ผลผลิตน้อยหรือเป็นช่วงที่ราคาถูก อาศัยการแปรรูปช่วยเพิ่มมูลค่า หากช่วงไหนมีผลผลิตเยอะ นอกจากการทำหญ้าหวานอบแห้งแล้ว ยังมีในส่วนของการนำมาทำหญ้าหวานบดผง โดยการได้รับคำปรึกษาและความช่วยเหลือในการพัฒนาแปรรูปผลิตภัณฑ์จากโครงการหลวง ช่วยแนะนำในส่วนของเตาอบและโรงเรือนพลังงานแสงอาทิตย์ ในการนำมาใช้ในการพัฒนาต่อยอดผลิตภัณฑ์จากหญ้าหวานและนอกเหนือจากการแปรรูปแล้ว รูปแบบการปลูกแบบ
อินทรีย์ถือเป็นส่วนช่วยสำคัญในการประหยัดต้นทุน ไม่ต้องซื้อปุ๋ย ซื้อยา
การแปรรูปหญ้าหวานอบแห้งและหญ้าหวานบดผง ทำได้ไม่ยาก
เจ้าของบอกว่า ในส่วนของผลิตภัณฑ์แปรรูปหญ้าหวานของที่ฟาร์มจะแบ่งออกเป็น 2 ผลิตภัณฑ์ด้วยกันคือ 1. หญ้าหวานอบแห้ง และ 2. หญ้าหวานบดผง ที่มีกระบวนการแปรรูปไปแนวทางเดียวกัน เพียงแค่ว่าการบดผงจะมีขั้นตอนเพิ่มขึ้นมาอีกเล็กน้อย ดังนี้
- เริ่มจากการเก็บเกี่ยวหญ้าหวานในช่วงที่พระอาทิตย์กำลังขึ้นและกำลังและต้องเลือกเก็บหญ้าหวานในช่วงที่กำลังตูมดอก เพราะจะเป็นช่วงที่มีค่าความหวานมากที่สุด
- นำไปล้างทำความสะอาด และทำการเด็ดใบออกจากก้าน นำไปตากในโรงเรือนพลังงานแสงอาทิตย์ ใช้ระยะเวลาในการตากประมาณ 1 วันครึ่ง ถึง 2 วัน โดยอุณหภูมิในโดมเฉลี่ยอยู่ที่ 38-40 องศาเซลเซียส
3.นำไปอบด้วยเตาฟืน ใช้เวลาอบประมาณ 1 คืน หรือประมาณ 8-10 ชั่วโมง เคล็ดลับสำคัญอยู่ที่อุณหภูมิและช่วงเวลาในการอบ ให้เลือกอบในช่วงที่ไม่มีแดดหรือช่วงที่ฝนตกจะช่วยให้การอบเป็นไปอย่างมีคุณภาพ สีของใบออกมาเขียวสวย ใบไม่ช้ำ เป็นที่ต้องการของตลาด จบไปในส่วนของขั้นตอนการแปรรูปหญ้าหวานอบแห้ง
4.การบดผง เป็นการต่อยอดนำใบที่อบแห้งเสร็จแล้ว นำมาบดด้วยเครื่องบดสมุนไพร โดยการบดผงจะเลือกทำตามออร์เดอร์ที่ลูกค้าสั่ง หรือในช่วงที่ผลผลิตราคาตกต่ำ ถ้ามีผลผลิตเยอะ ไม่สามารถเด็ดใบได้ทัน
อัตราส่วนในการแปรรูป
หญ้าหวานสดจำนวน 6 กิโลกรัมครึ่งต่อหญ้าหวานแห้ง 1 กิโลกรัม บรรจุใส่ถุง ถุงละ 1-2 กิโลกรัม หรือบรรจุตามออร์เดอร์ลูกค้า ราคากิโลกรัมละ 250 บาท ส่วนแบบบดผงราคาจะสูงกว่าหญ้าหวานอบแห้งกิโลกรัมละ 50 บาท เมื่อเทียบกับต้นทุนการปลูกและการดูแลแล้วถือว่าคุ้มค่า เพียงแต่เกษตรกรผู้ปลูกต้องอดทนและหาวิธีอยู่ให้ได้ในช่วงที่ราคาอาจจะตกลงมาบ้างก็สามารถนำไปถัวเฉลี่ยกับตอนที่ราคาสูงได้ยังมีกำไร ใน 1 เดือนสามารถผลิตหญ้าหวานแห้งได้เดือนละ 200 กิโลกรัม เมื่อหักต้นทุนแล้วจะมีรายได้เดือนละ 30,000-40,000 บาท
“สำหรับใครที่กำลังสนใจอยากปลูกหญ้าหวานเป็นพืชสร้างรายได้เสริม หญ้าหวานก็ยังเป็นพืชที่น่าสนใจ แต่สำคัญคือต้องปลูกแบบอินทรีย์และหาตลาดเองให้ได้ เพราะถ้าหากยอมให้พ่อค้าคนกลางเข้ามาผูกขาดอาจจะมีผลกระทบตามมาได้ในระยะยาว การขายของออนไลน์ความซื่อสัตย์ถือเป็นเรื่องสำคัญ ส่งของตรงต่อเวลา และคุณภาพให้ตรงตามที่พูดไว้ ถือเป็นใจความสำคัญในการทำตลาดอย่างยั่งยืน”
สนใจสอบถามรายละเอียดการปลูกและแปรรูปหญ้าหวานอินทรีย์เพิ่มเติมได้ที่เบอร์โทร. 093-285-6246 หรือติดต่อได้ที่ช่องทางเฟซบุ๊ก : Nutthakarn Yui
ขอบคุณรูปภาพ : https://www.facebook.com/nutthakarn.yui
สนใจขอบทความฉบับเต็มได้ที่ : https://maejo.link?L=Sp3j
หากพบปัญหาหรือต้องการข้อมูลเพิ่มเติม สามารถติดต่อได้ที่
เคาน์เตอร์ One Stop Service ชั้น 1
โทร 053-873510 ; 053-873511
Facebook MJU Library