ชื่อเรื่อง : เมื่อความจนเฆี่ยนตีผม
ผู้แต่ง : วันชัย ตันติวิทยาพิทักษ์
สืบค้นจาก : http://opac.library.mju.ac.th/opac2/BibDetail.aspx?bibno=348200
เรื่องราวชีวิตของพ่อค้าเด็กที่เริ่มค้าขายตั้งแต่วัยประถมต้นจนกลายเป็นผู้บุกเบิกวงการไมโครบริวเวอรี่ ผลิตเบียร์สดแบบเยอรมันขายในราคาคนไทยทำธุรกิจแบบวัดใจเปิดโรงเบียร์ขนาดใหญ่ 1,000 ที่นั่งท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจฟองสบู่แตกแต่สามารถฝ่าฟันจนมายืนอยู่แถวหน้าเป็นเวลายาวนานถึง 2 ทศวรรษ ด้วยความ มุ่งมั่นในใจว่า “ผมไม่อยากยากจนอีกต่อไป”รสชาติของชีวิต สุพจน์ ธีระวัฒนชัย เจ้าของโรงเบียร์ เยอรมันตะวันแดงที่เข้มข้นและมีสีสัน ไม่แพ้รสชาติของเบียร์ ได้รับการบันทึกเป็นตัวอักษรโดย วันชัย ตันติวิทยาพิทักษ์ นักเขียนรางวัลศรีบูรพา อดีตบรรณาธิการบริหาร นิตยสารสารคดี ในพ็อคเก็ตบุ๊คชื่อ “เมื่อความจนเฆี่ยนตีผม” ด้วยความที่รู้จักคุ้นเคยกันมาค่อนชีวิตจึงสามารถนำประวัติศาสตร์การเดินทางของนักสู้ผู้ที่พ่ายมาหลายครั้งหลายคราแต่ไม่เคยรีรอกับก้าวต่อไปข้างหน้ามาตีแผ่ได้ “จริง” และ “น่าติดตาม”
เรื่องราวเริ่มต้นเมื่อ 40 กว่าปีก่อน ด.ช.สุพจน์ เกิดในครอบครัวที่ไม่ได้มีรายได้มากนักต้องช่วยครอบครัว ทำมาค้าขายตั้งแต่ขนมหรือน้ำอัดลมใส่น้ำแข็งราคาถ้วยละ 1 สลึง และอีกหลายอย่างรวมทั้งช่วยเหลือ ครอบครัว ทำเสื้อยืดขายส่งตลาดโบ๊เบ๊ จนถึงวัยเข้าสู่รั้วมหาวิทยาลัย เขาก็ได้ทำกิจกรรมมากมายที่สำคัญ เขาได้เป็นประธานชุมนุมศิลปะการแสดง ของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ทำหน้าที่หาทุนและบริหารจัดการผู้คน ซึ่งเป็นพื้นฐานที่ดีในการทำธุรกิจในอนาคตนั่นไม่ได้หมายความว่าชีวิตจะราบรื่น ธุรกิจเสื้อผ้าของที่บ้านต้องประสบปัญหาทั้งจากปัญหาเศรษฐกิจของประเทศ และการคดโกงกันในวงการค้าขายแต่เขาก็ลุกขึ้นอีกครั้ง ด้วยการเป็นผู้ผลิตเสื้อยืดแบรนด์ดังในยุคนั้น “แยมแอนด์ยิม” สามารถทำรายได้เป็นกอบเป็นกำจึงทำการขยายธุรกิจขยายโรงงานจนเกินกำลังและล้มลงอีกครั้งอย่างไม่เป็นท่า
บทเรียนตลอดทั้งชีวิตสอนให้เขาค่อยๆแกร่งขึ้นพร้อมวิสัยทัศน์ที่กว้างไกลบวกกับนิสัยกล้าได้กล้าเสีย จึงลุกขึ้นอีกครั้งพร้อมเงินทุนก้อนสุดท้ายรวบรวมพลังและผู้ร่วมอุดมการณ์เปิดโรงเบียร์เยอรมันตะวันแดง ไมโครบริวเวอรี่ที่นำองค์ความรู้และบริวมาสเตอร์จากเยอรมันมาดูแลการผลิตโดยตรง ด้านดนตรีและความบันเทิงได้มองความไว้วางใจให้ บรูซ แกสตัน แห่งวงฟองน้ำมาสร้างเสน่ห์เสริมให้รสชาติเบียร์ทวีขึ้น“เชื่อไหมว่าถ้าคุณทำที่นั่งแค่ 200 ที่นั่ง คุณเหนื่อยเท่ากับขาย 1,000 ที่นั่ง และไม่คุ้มกับการลงทุนในเรื่องเครื่องจักรที่ผลิตเบียร์ได้วันละ 2,000 ลิตร…ผมจะทำเบียร์ที่อร่อยให้ทุกคนดื่ม ผมจะปรุงอาหารที่อร่อยให้ทุกคนกิน ผมเชื่อว่าพวกผมมีเนื้อแท้” คือ ความในใจของผู้ก่อตั้ง ท่ามกลางวิกฤตเศรษฐกิจของไทย ในช่วงปี 2542 โรงเบียร์เยอรมันตะวันแดงเปิดตัวอย่างสมศักดิ์ศรี โดยคุณสุพจน์ลงมือควบคุมในทุกรายละเอียดสร้างมาตรฐานให้กับทุกด้าน ทั้งการผลิตเบียร์ การครัว การบริการ และการบริหารบุคลากร จริงจังถึงขั้นไปลงเรียนหลักสูตรการประกอบอาหารไทยมืออาชีพ ที่วิทยาลัยดุสิตธานี เพื่อนำมาปรับปรุงให้โรงเบียร์ของเขาได้มาตรฐานสากล
ผ่านไป 20 ปี โรงเบียร์เยอรมันตะวันแดงขยายเป็น 3 สาขา รสชาติของเบียร์เป็นที่เลื่องลือโดยไม่ได้เปลี่ยนแปลงสูตรเลยตั้งแต่เปิดวันแรกอาหารหลายเมนูเป็นเมนูที่ทุกคนจำได้ เช่น ขาหมูทอดตะวันแดง กุ้งเรือนแก้ว ไหลบัวทอดเต้าเจี้ยว หรือกะหล่ำปลีทอดน้ำปลา มีพนักงานร่วม 1,000 คน ยอดขายรวมทะลุ 800 ล้านบาททั้งหมดเกิดขึ้นเพราะถูกความจนเฆี่ยนตีจนเขา “ไม่อยากยากจนอีกต่อไป”นอกจากเส้นทางการต่อสู้ชีวิตของคุณสุพจน์แล้ว ใน “เมื่อความจนเฆี่ยนตีผม” ยังนำเสนอความรู้ เรื่องการผลิตเบียร์ หลักการบริหารงานของผู้ที่ประสบผลสำเร็จ รวมทั้งเรื่องเล่าหลากหลายสีสันจากโรงเบียร์ ที่สามารถสร้างรอยยิ้มให้กับทุกคนไปพร้อม ๆ กัน
สารบัญ
- ปฐมบท
- ความจนเหมือนแส้ที่คอยเฆี่ยนตีหลังเรา
- สู่ธุรกิจเสื้อยืด
- เสื้อยืด แยมแอนด์ยิม ความผิดพลาดครั้งใหญ่
- เบียร์สดเยอรมัน อาหารอีสาน
- เริ่มต้นโรงเบียร์เยอรมันตะวันแดง
- รสชาติของเบียร์ รสชาติของชีวิต
- บรรยากาศดี อาหารเลิศ
- มาตรฐานครัว มาตรฐานรสชาติอาหาร
- บรูซ แกสตัสกับฟองน้ำที่นี่ที่เดียว
ฯลฯ
สนใจสอบถามได้ที่ เคาน์เตอร์ยืมคืน ชั้น 1 โทร 053-873510 , Facebook MJU Library
หรือใช้บริการ Books Seeking & Delivery Service (บริการยืมสำหรับอาจารย์ บุคลากร และนักศึกษา มหาวิทยาลัยแม่โจ้)
อ้างอิง https://mgronline.com