ชื่อเรื่อง : โยดายาบอย
ผู้แต่ง : วิชัย มาตกุล
สืบค้นจาก : http://opac.library.mju.ac.th/opac2/BibDetail.aspx?bibno=325040
ย้อนกลับไปช่วงผ่านสหัสวรรษ เด็กนักเรียนชายนาม ‘วิชัย’ เพิ่งเรียนจบ ม.6 กลับไม่ได้ไปสอบเอนทรานซ์เข้ามหาวิทยาลัยเหมือนใครเขา แต่โดนพ่อส่งไปเรียนไกลถึงต่างแดน-ประเทศพม่า จนกลายมาเป็นบันทึกเรื่องราวการเอาตัวรอด ปรับตัว และประคับประคองทั้งจิตใจและร่างกายของวัยรุ่นว้าวุ่นคนหนึ่งที่ต้องใช้เวลาช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อเพียงครั้งเดียวของชีวิตในประเทศแปลกหน้า
หนังสือเล่มใหม่ล่าสุดของ วิชัย เล่มนี้มีเนื้อหาค่อนข้างซีเรียสกว่าเล่มอื่นๆ ที่ผ่านมา เพราะมันเป็นเรื่องของวัยหัวเลี้ยวหัวต่อของชีวิตที่ผ่านเข้ามาแค่ครั้งเดียว นั่นคือช่วงชีวิตวัยรุ่น หลังจากจบ ม.6 แทนที่ วิชัย จะได้เข้าเรียนมหาวิทยาลัยแบบวัยรุ่นคนอื่นๆ แต่เขากลับถูกพ่อและแม่ส่งไปอยู่ที่ย่างกุ้ง ประเทศพม่าโดยที่ไม่รู้ว่าจะต้องอยู่นานแค่ไหน ประเทศพม่าในปี 1997 (พ.ศ. 2540) ตอนนั้นยังถูกปกครองด้วยรัฐบาลทหาร ประเทศที่ด้อยพัฒนาในทุกๆ ด้านเมื่อเทียบกับไทยในสมัยนั้น วิชัย ถูกพ่อส่งไปอยู่กับอาที่นั่น เรียนหนังสือที่นั่น โดยที่ไร้เพื่อนและไร้สิ่งบันเทิงใจในชีวิต โดยต้องเรียนภาษาอังกฤษและภาษาพม่าอย่างเร่งด่วน เพื่อนที่เพิ่งจะผูกมิตรได้ไม่นานก็ย้ายตามพ่อแม่ไปอยู่ประเทศอื่น
การเป็นเด็กหน้าใหม่ในทุกๆ ที่ที่ย่างก้าว ทำให้วิชัยในช่วงวัยรุ่นเกิดความน้อยเนื้อต่ำใจ ความโกรธขึ้ง ความไม่เข้าใจ ความเศร้า ว่าทำไมเขาต้องมาอยู่ในสภาวะนี้ จนกระทั่งมันเกิดเป็นความเคยชิน และเริ่มมีเพื่อนจากการเล่นบาสเก็ตบอล เริ่มออกไปใช้ชีวิตวัยรุ่นในแบบวัยรุ่นพม่า เป็นโยดายา (คำที่คนพม่าเรียกคนไทย) ที่ต้องยอมรับว่ามันอาจจะไม่มีความสะดวกสบายในชีวิตแบบที่อยู่ในไทย แต่ก็อยู่ได้ จนได้เข้าใจว่าทำไมพ่อกับแม่ถึงส่งเขามาอยู่ที่นี่ ใช้ชีวิตที่นี่ และมีชีวิตที่ไม่เหมือนแบบวัยรุ่นคนอื่นๆ ที่อยู่ในไทย ในชีวิตของคนเรา มันต้องมีบางช่วงบางตอนของชีวิตที่ต้องออกจาก comfort zone ต้องออกไปเผชิญและผจญกับสิ่งแวดล้อมใหม่ๆ ที่ไม่คุ้นเคยทั้งด้านสังคม ภาษา อาหารการกิน วัฒนธรรม คติความเชื่อต่างๆ การไปใช้ชีวิตเป็นเด็กใหม่อยู่ที่ที่เราไม่คุ้นเคย มันไม่เหมือนกับการไปเที่ยวและกลับบ้าน แต่มันมีมากกว่านั้น ทั้งความกังวลใจ ความเครียด ความไม่เข้าใจ ความโกรธ ความเศร้า คิดถึงบ้าน แต่สุดท้ายสิ่งเหล่านั้นมันจะหายไปเองโดยกาลเวลาเยียวยา การที่ต้องยอมรับและต้องเอาชีวิตรอดให้ได้ แม้คนที่แข็งแกร่งที่สุดก็ต้องมีอาการซวนเซเมื่อต้องอยู่ในที่ที่ไม่คุ้นเคย แต่สุดท้ายแล้วมนุษย์ซึ่งเป็นสัตว์สังคม มีสมอง มีความคิด ก็ต้องเอาตัวรอดในสถานการณ์ต่างๆ ให้ได้และเรียนรู้ที่จะอยู่กับมันให้มีความสุข
หนังสือเล่มนี้วิชัยได้บอกในคำนำว่าเป็นหนังสือทีเขียนยากและใช้เวลานานที่สุดในชีวิตการเป็นนักเขียนของเขา ซึ่งอันนี้เห็นด้วย เพราะมันมีไม่กี่คนหรอกที่สามารถจะเขียนเรื่องราวของตัวเองในช่วงชีวิตที่เรียกได้ว่าเป็นชีวิตที่ผ่านเข้ามาเพียงหนเดียวและแป๊บเดียว เป็นช่วงเวลาที่ค้นหาตัวเอง ต่อสู้กับอารมณ์ ฮอร์โมนและสิ่งอื่นๆ ที่ผ่านเข้ามาในชีวิต แต่เมื่อช่วงเวลาเหล่านั้นได้ผ่านพ้นไป เมื่อหันหลังกลับไปมอง มันอาจจะเป็นช่วงเวลาที่เป็นความทรงจำที่ดีที่สุดในชีวิตก็เป็นได้แม้ว่ามันจะตลก สนุกสนาน แต่มันแฝงไปด้วยอารมณ์ของวัยรุ่นคนหนึ่งที่ยังไม่เข้าใจชีวิต อารมณ์แปรปรวน แต่สุดท้ายแล้วเขาก็ผ่านมันไปได้ด้วยดี คนที่คิดว่ายังไม่รู้ว่าชีวิตจะเป็นอย่างไรต่อไป ลองอ่านดูนะ มันอาจจะช่วยให้เข้าใจได้ว่า ไม่ว่าจะมีการใช้ชีวิตในรูปแบบใดๆ ก็ตาม มันก็ทำให้เราเป็นเราในทุกวันนี้แหละ เพียงแค่เปิดรับและยอมรับมันแม้ว่าจะไม่เต็มใจก็ตาม ทางเลือกในชีวิตอาจจะไม่มีมาก แต่คุณสามารถเลือกได้ว่าจะใช้ชีวิตที่มีอยู่อย่างไรต่างหาก
สารบัญ
– จบ.
– จบ.
– วันที่ 13 กันยายน 1997 เวลา 12 นาฬิกา
– ฮาวดูยูดู
– Hi, Class
– Hi Five
– แรงดึงดูด
– แรงดึงดูของไอ้จิ๊ด
– กะลาตาน
– รอ
ฯลฯ
สนใจสอบถามได้ที่ เคาน์เตอร์ยืมคืน ชั้น 2 โทร 053-873510 , Facebook MJU Library
หรือใช้บริการ Books Seeking & Delivery Service (บริการยืมสำหรับอาจารย์ บุคลากร และนักศึกษา มหาวิทยาลัยแม่โจ้)
ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพ : Facebook อ่านแล้วมาเล่า เล่าแล้วไปอ่าน ; http://news.se-ed.com